อ่างทอง - ไม่พ้นเคราะห์เก๋งจะไปรดน้ำมนต์ลงสะพานข้ามแม่น้ำแหกโค้งลงข้างทางติดภายในเจ็บสาหัส คาดคนขับไม่ชินทาง มาด้วยความเร็วจึงแหกโค้งลงไปในป่าข้างทางพังยับ
วันนี้ (19 ส.ค.) พ.ต.ท.ชัยยา ดวงริวงศ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งแหกโค้งตกลงไปในป่าข้างทาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ จำนวน 2 ราย เหตุเกิดบริเวณโค้งสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเลี่ยงเมืองอ่างทอง ก่อนถึงจุดกลับรถ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านแห อำเภอเมือ จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง ชุดตัดถ่าง และเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลอ่างทอง เดินทางไปให้การช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุบริเวณโค้งหักศอกลงสะพานเลี่ยงเมืองอ่างทอง มุ่งหน้าแยกเรือนจำจังหวัดอ่างทอง พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่มคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กศ 7196 กรุงเทพมหานคร แหกโค้งชนการ์ดเลนและต้นไม้ข้างทางได้รับความเสียหาย ตกลงไปในป่าข้างทางที่มีความสูงประมาณ 6 เมตร สภาพได้รับความเสียหาย ชิ้นส่วนของรถกระจายอยู่เต็มพื้นที่ การ์ดเลนเสียหายกว่า 8 เมตร จากการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือใช้เวลานานกว่า 40 นาที จึงสามารถนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากซากรถได้สำเร็จ
ทราบชื่อต่อมาคือ นายแมทธิว วิสิทธิ์ อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่ อยู่บ้านเลขที่ 303/52 หมู่ที่ 3 ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เจ็บแน่นหน้าอก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องทำการเจาะปอดช่วยในการหายใจ และอีกรายทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.จิราพา ตะโจประรัง อายุ 19 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในตำบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง มีอาการขาด้านขวาผิดรูป ฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทองอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวนจากญาติผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี เพื่อมุ่งหน้ามาทำพิธีรดน้ำมนต์ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ระหว่างทางได้คุยโทรศัพท์กับทางญาติจนเงียบหายไป จนญาติมาพบอีกทีว่าได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักแหกโค้งชนเข้ากับการ์ดเลนจนตกลงไปในป่าข้างทางติดอยู่ภายในรถ ซึ่งคาดว่าผู้ขับอาจจะไม่ชินกับเส้นทาง เนื่องจากเป็นทางลงสะพานข้ามแม่น้ำ และเป็นโค้งหักศอกจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และจะทำการสอบปากคำผู้ขับหลังจากมีอาการดีขึ้น เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
