เชียงราย – กยท.ทำ MOU ยักษ์ใหญ่ร่วมวงซื้อยางพาราเกษตรกรทั่วไทย..ชี้ปรากฎการณ์เอลนีโญรุนแรง ทำผลผลิตทั่วโลกลดลงถึงปี 68 อาจเป็นปัจจัยบวกดันราคายางฯสูงขึ้น
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำคณะร่วมลงนามความร่วมมือ ( MOU) กับบริษัทไทยรับเบอร์ลาเท็กซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกร พร้อมจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรประจำปี 2566 ในพื้นที่ จ.เชียงราย เมื่อเร็วๆนี้
โอกาสนี้ได้มีการเปิดบรรยายสถานการณ์ยางพารา ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 โดย น.ส.อธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง ,การซื้อขายยางผ่านตลาดกลาง กยท. ด้วยระบบ Thai Rubber Trade โดย นายศุภชัย แข่งขัน ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกลางยางพารา จ.เชียงราย รวมทั้งตรวจเยี่ยมการส่งมอบยาง ตลาดเครือข่ายที่สหกรณ์ยางพาราแม่ลาวแม่กรณ์ จำกัด อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ด้วย
ซึ่งกรณีสถานการณ์ยางพารา ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 นั้น กยท.ระบุว่าปรากฎการณ์เอลนีโญที่มีการยกระดับเตือนภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของโลกคือ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนามและมาเลเซีย ทำให้คาดการณ์่ว่าผลผลิตยางพาราจะลดลงไปจนถึงปี 2568 ในอัตราร้อยละ 2 ทำให้เกิดภาวะอุปทานหรือความต้องการขายขาดแคลนและจะทำให้ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้นตามมา ทั้งนี้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา(มกราคม-มีนาคม) ก็เริ่มพบผลผลิตยางพาราทั่วโลกลดลงไปแล้วถึง 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านสถานการณ์ในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย.2566 พบว่ามูลค่าการส่งออกยางพาราแปรรูปมีมูลค่า 112,509 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงถึงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการส่งออกผลิตภัณฑ์จากยางพารามีมูลค่า 170,264 ล้านบาท ก็ลดลงร้อยละ 8.6 สาเหตุเกิดจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยทั่วโลกชะลอตัว และคาดว่าครึ่งปีหลังของปี 2566 เศรษฐกิจมีแนวโนมชะลอตัวลงอีกเนื่องจากแรงกดดันด้านราคา เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตต่อไร่มีแนวโน้มลดลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก อาจเป็นปัจจัยบวกทำให้ราคายางพาราปรับสูงขึ้นได้ในอนาคต โดยช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ทั่วโลกมีการผลิตยางรถบรรทุก 47.9 ล้านเสัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 การผลิตยางรถยนต์ก็มีถึง 410.7 ล้านเส้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7
