อุบลราชธานี - อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ ชี้ไม่เห็นด้วยมีการแยกรวย-จนรับเงินสวัสดิการเบี้ยผู้สูงอายุ เพราะทำให้มีผู้ต้องการอำนาจคัดเลือกไปหาประโยชน์ ควรยกเลิกคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ก่อนจะถูกด่าไปมากกว่านี้
นายอิสสระ สมชัย อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกระทรวงมหาดไทยจะคัดแยกผู้ที่จะได้รับเงินสวัสดิการผู้สูงอายุว่า โครงการเบี้ยผู้สูงอายุเกิดขึ้นเมื่อกว่า 30 ปีก่อนในสมัยของพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนทำ โดยช่วงแรกให้เงินคนละ 200 บาท และให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแลการจ่ายเงิน เนื่องจากมหาดไทยมีฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกำกับดูแล สามารถคัดแยกผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์มารับเบี้ยผู้สูงอายุได้จนถึงปัจจุบันที่มีกว่า 11 ล้านคน และปรับเงินเป็นคนละ 600 บาท
โดยหลักเกณฑ์เดิมเขียนไว้ชัดเจนกรณีผู้ที่จะไม่ได้รับเบื้อผู้สูงอายุ คือ ผู้ที่ได้รับสวัสดิการดูแลจากรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ แต่เมื่อมีการยกเลิกข้อความนี้ออกไป แล้วเขียนมากว้างๆ ผู้ที่จะได้รับเบี้ยยังชีพคือผู้ที่ไม่มีเงินพอแก่การยังชีพ คนที่รับเบี้ยหวัดบำนาญจากรัฐก็สามารถมายื่นขอได้เช่นกัน
นายอิสสระยังให้ความเห็นการให้อำนาจคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งจะมาเป็นผู้กำกับดูแลออกหลักเกณฑ์คัดเลือกผู้ที่จะได้รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุ จะทำให้มีคนได้รับเบี้ยยังชีพและมีคนไม่ได้จากการคัดเลือก แล้วจะทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคีในชุมชน จึงอย่าทำลายความหวังของประชาชนที่จะได้รับเบี้ยยังชีพไม่กี่ร้อยบาท ระเบียบเดิมนั้นดีอยู่แล้ว ถ้าจะแก้ก็ขอให้เพิ่มเงินให้ผู้สูงอายุจะดีกว่า
สำหรับนายอิสสระ อดีตเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น ส.ส.ของพรรคมาอย่างยาวนาน กระทั่งถูกดำเนินคดีร่วมกับแกนนำ กปปส.ถูกพิพากษาให้จำคุกและตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้คดีที่ศาล