xs
xsm
sm
md
lg

ยิ้มไม่ออก! ชาวนาเมืองแปดริ้วโอดข้าวราคาใหม่ยังเก็บเกี่ยวไม่ได้ แต่ต้นทุนผลิตทุกด้านปรับแซงหน้าแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา - ยิ้มไม่ออก! ชาวนาเมืองแปดริ้วโอดถูกขี่คอตั้งแต่ข้าวยังไม่ทันได้ออกรวง เหตุราคาปุ๋ย ยาบำรุง ยาฆ่าแมลงปรับขึ้นแซงหน้า ครวญแม้มีการประกาศขึ้นราคารับซื้อข้าวใหม่แต่สุดท้ายชาวนาไม่ได้อะไรเพราะต้นทุนผลิตขึ้นทุกด้าน

จากกระแสข่าวประเทศอินเดีย ประกาศงดส่งออกข้าวเนื่องจากผลผลิตไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ จนส่งผลให้ราคารับซื้อข้าวในประเทศไทยขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังทำให้ผู้ประกอบการโรงสีปรับขึ้นราคารับซื้อข้าวสูงถึงตันละ 11,000-11,500 บาทนั้น

วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวินัย ใหญ่ผลสุข เกษตรกรในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทำนาบนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ และนายสุชาติ นาคสมบูรณ์ อายุ 55 ปี ชาวนาในพื้นที่ ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่า แม้ปัจจุบันโรงสีข้าวจะปรับราคารับซื้อข้าวจากชาวนาแต่ยังไม่มีผลใดๆ เนื่องยังไม่ถึงช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต

ในทางกลับกันขณะที่ชาวนายังเก็บเกี่ยวผลผลิตออกขายไม่ได้ แต่ร้านค้าปุ๋ยได้ปรับราคาขายหน้าร้านขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่ราคาปุ๋ยกระสอบละ 800-900 บาท ขยับไปอยู่ 1,050-1,100 บาทต่อกระสอบ
ไม่เพียงเท่านั้นกลุ่มยาฆ่าแมลงสำหรับใช้ในนาข้าวขยับสูงขึ้นแล้วเช่นกัน ไม่นับรวมราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขยับเกือบถึงลิตรละ 40 บาท


“แม้จะมีข่าวราคาข้าวขยับ แต่ชาวนากลับรู้สึกว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรจากราคาข้าวที่ขยับขึ้นเลย เพราะก่อนหน้านี้แม้จะขายข้าวได้ในราคาตันละ 8,000 กว่าบาท แต่ต้นทุนการผลิตยังไม่ปรับขึ้นเช่นปัจจุบัน ทั้งนี้ หากผลผลิตต่อไร่ได้ไม่ต่ำกว่า 100-120 ถัง หรือประมาณ 1 ตันขึ้นไป ชาวนาต้องขาดทุนจากราคาปุ๋ย รวมทั้งยาบำรุงต้นข้าวและยาฆ่าแมลง รวมทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับวิดน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวอยู่ดี” 2 เกษตรกรผู้ปลูกข้าว กล่าว


เช่นเดียวกับ นายกิจจา ตุ้มวิจิตร ชาวนาใน อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทำนาบนเนื้อที่ 49 ไร่ บอกว่าขณะนี้ชาวนายังไม่ทันได้ขายข้าวเปลือกในราคาใหม่ แต่ผู้ค้าข้าวสารได้ขยับราคาขายข้าวเก่าในโรงสีที่ซื้อมาในราคาถูกเมื่อช่วงฤดูกาลที่แล้วถึงถังละ 400 บาท จากเดิมที่เคยซื้อถังละกว่า 300 บาท หรือตันละ 40,000 หมื่นบาท

อีกทั้งในปีนี้ชาวนาในพื้นที่ยังเชื่อว่าผลผลิตข้าวน่าจะได้น้อยกว่าปีก่อนเนื่องจากปัญหาฝนแล้ง ดังนั้นการปรับขึ้นราคาข้าวสารจึงไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ต่อชาวนา




กำลังโหลดความคิดเห็น