ศูนย์ข่าวศรีราชา - พุ่งปรี๊ดในรอบ 20 ปี ราคารับซื้อข้าวเปลือกในประเทศไทยสูงเป็นประวัติการณ์ หลังอินเดียประกาศงดส่งออกข้าว ขณะกรรมการ นบข.เตือนรัฐบาลเร่งสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร
วันนี้ (7 ส.ค.) นายสุเทพ คงมาก กรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาข้าวของไทยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พุ่งสูงขึ้นทั้งข้าวเปลือก และข้าวขาว โดยเป็นราคาที่พุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการที่ประเทศอินเดียมีนโยบายงดการส่งออกข้าวไปต่างประเทศจากความกังวลหลายอย่าง
ผลที่ตามมาคือประเทศที่เคยเป็นคู่ค้าข้าวของอินเดียได้พากันมาสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จนทำให้ขณะนี้กำลังผลิตข้าวของไทยเริ่มไม่เพียงพอ
“ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวเปลือก (หอมปทุม) เดิมซื้อขายกันที่ 8,000-8,500 บาทต่อตัน แต่ในวันนี้ขยับมาเป็น 11,500-12,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวขาวเดิมซื้อขายที่ 8,000 บาทต่อตัน ขณะนี้ได้ขยับมาเป็น 11,500-12,000 บาทต่อตัน ส่วนข้าวหอมมะลิ เดิม 14,000 บาทต่อตัน ตอนนี้ขยับมาเป็น 18,000 บาทต่อตันเช่นเดียวกับข้าวอื่นๆ อีกหลายชนิด”
นายสุเทพ ยังฝากเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลให้จับตาราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้นจากความต้องการของตลาดแต่การผลิตไม่เพียงพอ โดยสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง เช่น การรวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่
รวมทั้งการจัดการด้านแหล่งน้ำและปัจจัยการผลิตที่ต้องทำให้ถูกลงกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งเรื่องการประกันราคา หรือจำนำข้าว สิ่งเหล่านี้จะต้องทำให้เกษตรกรแข็งแกร่งด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับการหาตลาดส่งออกข้าวให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าตลาดซื้อขายข้าวเปลือกของประเทศไทยในช่วงนี้คึกคักเป็นอย่างมากจากความต้องการของผู้ส่งออก ทำให้ผู้ประกอบการต้องหาเช่าพื้นที่โกดังเพื่อเก็บข้าวรอส่งขายให้ผู้ส่งออกด้วยเช่นกัน