เชียงใหม่/สิงห์บุรี - ชุดสืบนครบาล แกะรอยรวบ “พ่อเลี้ยงกาน” เถ้าแก่อู่แต่งรถชื่อดังแม่อาย เชียงใหม่ คาปั๊มน้ำมันพื้นที่สิงห์บุรี..หลังโมดิฟายรถ ก่อนฉายเดี่ยวขนยานรกกว่า 1 ล้านเม็ด ตามยึดทรัพย์ทั้งรถยนต์-มอเตอร์ไซค์รวม 15 คัน พร้อมบ้าน/ทรัพย์สินอื่นกว่า 10 ล้าน
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตร. (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. สืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงพื้นที่ตอนใน และกระจายสู่ชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ ห้วง 11-13 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา
กระทั่งจับกุมตัวนายจิรศักดิ์ หรือกาน อายุ 42 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนสายเอเชีย ต.บางมัญ อ.เมืองสิงห์บุรี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวนประมาณ 1,181,200 เม็ด, รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน และตามตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็นรถยนต์ อีก 11 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน
โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหารายนี้มีขึ้นหลังทีมตำรวจสืบสวนนครบาลได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมา จนสืบทราบว่ามีบุคคลลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฉายา “พ่อเลี้ยงกาน” ทราบชื่อภายหลังคือ นายจิรศักดิ์ บุญชัย อายุ 42 ปี พักอาศัยอยู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. 2566 เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ ของนายจิรศักดิ์ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. จึงได้รายงานให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และผู้บังคับบัญชา กระทั่งมีการสั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าและวางกำลังในเส้นทาง
จนพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ ผ่านบริเวณถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์ มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพมหานคร จึงได้ติดตามและทำให้รถเป้าหมายหยุดจอดได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบ
ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบยาบ้าของกลางซุกซ่อนอยู่ในลังบรรจุเครื่องปั่นไฟ ยี่ห้อ BISON รุ่น DG - 6700 418 CC ที่มีการแปลงสภาพถอดเครื่องและอุปกรณ์ปั่นไฟออก คงเหลือแต่ Case หุ้ม จำนวน 2 ลัง บรรทุกหลังรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ จึงได้ทำการจับกุม พร้อมขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านและยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ล้านบาท
สอบถามผู้ต้องหาให้การว่าตนเปิดอู่แต่งรถเพื่อโมดิฟายรถแข่ง และในการลักลอบขนยาเสพติดทุกครั้งจะทำงานเพียงคนเดียวโดยใช้รถที่ตนเองโมดิฟายความเร็วแล้ว โดยนำยาเสพติดมาอำพรางด้วยการซุกซ่อนไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ บรรทุกท้ายรถยนต์กระบะ ก่อนลำเลียงลงไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล ภายหลังจากถูกจับกุมพร้อมของกลางให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สืบสวนนครบาล ได้เร่งรัดทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายสู่ชุมชน พื้นที่ กทม. และปริมณฑล ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ และรับว่าในแต่ละครั้งตนจะขนยาเสพติดเพียงคนเดียวเพื่อไม่ต้องแบ่งเงินกับใคร เห็นว่าเป็นรายได้ที่ดีมาก แต่อย่างๅรก็ตามเมื่อถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ไม่มีใครที่จะรอดจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แม้จะเก่งแค่ไหนก็ตาม