ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ “พ่อเลี้ยงกาน” เจ้าของอู่รถแต่ง ลักลอบลำเลียงยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด ซุกซ่อนในเครื่องปั่นไฟ จากภาคเหนือ ส่งลูกค้า กทม.- ปริมณฑล
วันนี้ (14 ส.ค.) ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ลงมาให้ความสำคัญด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 11-13 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตร. (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สําเริง สวนทอง รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่างรอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงพื้นที่ตอนใน และกระจายสู่ชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ นายจิรศักดิ์ หรือ กาน บุญชัย อายุ 42 ปี ที่อยู่ 59 ม.5 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,181,200 เม็ด 2. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน งต 2112 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน พร้อมตามตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็น รถยนต์ จำนวน 11 คัน พร้อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน โดยกล่าวหาว่าจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป สามารถสถานที่จับกุม บริเวณภายในปั้มน้ำมัน ป.ต.ท.หงษ์ชวลิต สิงห์บุรี ติดถนนสายเอเชีย ต.บางมัญ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี
โดยพฤติการณ์ในการจับกุมครี้งนี้ สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมา จนสืบทราบว่า มีบุคคลลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเพื่อมาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฉายาพ่อเลี้ยงกานทราบชื่อภายหลังคือ นายจิรศักดิ์ ต่อมาวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถยนต์กระบะ ของนายจิรศักดิ์ ทาง พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช และผู้บังคับบัญชาทราบ จึงได้สั่งการให้นำกำลังไปเฝ้าและวางกำลังในเส้นทาง ต่อมา พบรถยนต์กระบะดังกล่าว ผ่านบริเวณ ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพฯ จึงได้ติดตามและสามารถให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุดจอดได้ที่บริเวณปั้มน้ำมัน ป.ต.ท.หงษ์ชวลิต สิงห์บุรี ติดถนนสายเอเชีย ต.บางมัน อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว โดยผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบ ยาบ้า ของกลางซุกซ่อนอยู่ในลังบรรจุเครื่องปั่นไฟ ยี่ห้อ BISON รุ่น DG-6700 418 CC ที่มีการแปลงสภาพถอดเครื่องและอุปกรณ์ปั่นไฟออก คงเหลือแต่ Case หุ้ม จำนวน 2 ลัง บรรทุกหลังรถยนต์กระบะ จึงได้ทำการจับกุม พร้อมขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านและยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ล้านบาท
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ตนเปิดอู่แต่งรถ เพื่อโมดิฟายรถแข่ง และในการลักลอบขนยาเสพติดทุกครั้งจะทำงานเพียงคนเดียวโดยใช้รถที่ตนเองโมดิฟายความเร็วแล้ว จะใช้วิธีนำยาเสพติดมาอำพรางด้วยการซุกซ่อนไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ บรรทุกท้ายรถยนต์กระบะ ก่อนลำเลียงลงไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล ภายหลังจากถูกจับกุมพร้อมของกลาง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายสู่ชุมชน พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ และรับว่าในแต่ละครั้งตนจะขนยาเสพติดเพียงคนเดียวเพื่อไม่ต้องแบ่งเงินกับใคร เห็นว่าเป็นรายได้ที่ดีมาก แต่อย่างใรก็ตาม เมื่อถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ไม่มีใครที่จะรอดจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แม้จะเก่งแค่ใหนก็ตาม