ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ“เอส คอลาย” ผู้ต้องหาบังคับลูกเลี้ยง วัย 12 ปี เสพยาและกระทำชำเรา พบประวัติเคยก่อคดีมากกว่า 13 ครั้ง
วันนี้ (7 ส.ค.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวีรยุทธ แสนชัย หรือ "เอส คอลาย" อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ซ.อารีย์ 2 ถ.พหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 113/2566 ลงวันที่ 25 พ.ค. 66 ข้อหาความผิดเกี่ยวกับเพศ โดยจับกุมตัวได้ที่ ภายในซอยตลาดวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อปี 62 ผู้ต้องหาเริ่มเข้ามาคบกับ น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี และมีลูกติดคือ ด.ญ.ส้ม (นามสมมติ) อายุเพียง 8 ปี ซึ่งแรกเริ่มที่ผู้ต้องหาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว น.ส.เอ๋ นั้น ก็ดูเป็นครอบครัวที่ปกติทั่วไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด.ญ.ส้ม ได้เจริญเติบโตขึ้นเข้าสู่ช่วงอายุ 11 ปี ได้มีผู้เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของครอบครัวนี้ โดยจะมักเห็นพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มีความสนิทสนมกับ ด.ญ.ส้ม มากเกินกว่าพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง มีการหยอกล้อในเชิงชู้สาวกับ ด.ญ.ส้ม อยู่เป็นประจำ กระทั่งในปี 65 เรื่องราวสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรมก็ได้เกิดขึ้น เมื่อผู้ต้องหาแสดงอาการหมดรัก น.ส.เอ๋ และพา ด.ญ.ส้ม ไปกินอยู่ด้วยฉันสามีภรรยา โดยตลอดการพาไปอยู่กินด้วยได้ล้างสมอง ด.ญ.ส้ม ให้เกลียดแม่ตัวเอง ให้ลาออกจากโรงเรียน และให้ตกเป็นทาสกามอารมณ์ของตนเองโดยไม่สนอนาคตของเด็กแต่อย่างใด
กระทั่งในปัจจุบัน ด.ญ.ส้ม อายุ 12 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือและออกเร่ร่อนไปกับผู้ต้องหา โดย ด.ญ.ส้ม เข้าใจว่า นี่คือ รักแท้ ซึ่งผู้ต้องหาได้พาตัว ด.ญ.ส้ม ออกไปจากบ้านอีกครั้งและพาไปเร่ร่อน บังคับเสพยาเสพติดและลงมือกระทำชำเรา ด.ญ.ส้ม ซึ่ง น.ส.เอ๋ ผู้เป็นแม่ทราบเรื่องถึงกับใจสลาย ทั้งพยายามติดต่อ ตามหา แต่ผู้ต้องหาก็ยังนำโทรศัพท์มือถือของ ด.ญ.ส้ม ไปขายเพื่อนำมาซื้อยาเสพติดเสพ น.ส.เอ๋ จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลออนไลน์ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนแกะรอยจนสามารถจับกุมตัวได้
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองลงมือกระทำชำเราลูกเลี้ยงวัย 12 ปี และที่ทำไปเพราะความรัก ตอนแรกแค่แอบชอบ แต่พอพูดคุยแหย่กันไปมาก็เริ่มมีความรู้สึกรัก ทั้งนี้ โดยที่ผ่านมา ตนเองเคยถูกจับกุมตั้งแต่วัยเด็ก โดยรวมทั้งหมดถึงปัจจุบันกว่า 13 ครั้ง เสพยาบ้า ครอบครองยาบ้า ครอบครองยาไอซ์ ขับเสพฯ ร่วมกันชิงทรัพย์ ชิงโทรศัพท์มือถือเด็กนักเรียน ลักทรัพย์ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ พรากผู้เยาว์อายุ 13 ปี ไปเพื่อการอนาจารฯ ล่าสุด โดนข้อหาอนาจารเด็ก และอยู่ระหว่างการประกันตัว ถูกติดกำไล EM แต่ได้ถอดทิ้งไปเพื่อหลบหนี จะไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาล เพราะไม่พร้อมที่จะติดคุก
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ประวัติคนร้ายรายนี้ถือว่าโชกโชนมาก ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด ชิงทรัพย์ อนาจาร จนเป็นภัยสังคม และจากแผนประทุษกรรมในคดีล่าสุดนี้ เรียกได้ว่า ไม่เหลือศีลธรรมในจิตใจ กระทำกับเด็กหญิงอายุเพียง 12 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยงของตนเองได้ และที่รับไม่ได้ คือ การบังคับให้เด็กเสพยาเสพติดก่อนลงมือกระทำชำเราเด็ก ซึ่งไม่ต้องการให้คนเช่นนี้เพ่นพ่านในสังคม จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากพบว่าบุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อ หรือมีแนวโน้มที่จะถูกคนร้ายรายนี้กระทำมิดีมิร้าย โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น.