xs
xsm
sm
md
lg

กลับบ้านแล้ว! ม็อบต้านโรงไฟฟ้าขยะปิดทางขึ้นศาลากลางฯ โคราชพอใจ หลังผู้ว่าฯ รับปากทำประชาพิจารณ์ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ม็อบคัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 1,600 ล้าน ชุมนุมปิดทางขึ้นศาลากลางจังหวัดฯ พอใจ ยอมกลับบ้านแล้ว หลังผู้ว่าฯโคราชรับปากทำประชาพิจารณ์ใหม่ และให้ดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่ของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (11 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มชาวบ้านจากอำเภอขามสะแกแสง และอำเภอโนนไทย จ.นครราชสีมา ได้มีการรวมตัวกันชุมนุมประท้วงคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยได้มีการเริ่มชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 10 ส.ค. เพื่อรอพูดคุยเจรจากับทาง นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ งบประมาณการลงทุน 1,600 ล้านบาท ที่จะใช้พื้นที่ ต.พะงาด อ.ขามสะแกแสง เป็นพื้นที่ดำเนินโครงการฯ ซึ่งการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


จนกระทั่งกลุ่มชาวบ้านเริ่มไม่พอใจหลังจากที่ทางผู้ว่าฯ นครราชสีมาไม่มาตามนัดคือเวลา 13.00 น. ทำให้กลุ่มชาวบ้านกรูกันเข้าไปที่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลากลางจังหวัดฯ พร้อมกับตะโกนเรียกผู้ว่าฯให้ออกมาพบ แต่ขณะนั้นผู้ว่าฯ ได้มีการพาคณะกรรมการการจัดงานพืชสวนโลกไปดูสถานที่การจัดงานที่อำเภอคง ยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจ หลังจากนั้นเวลา 16.30 น. ทางกลุ่มชาวบ้านได้มีการนำรถมาจอดขวางปิดทางเข้าออกศาลากลางจังหวัดฯ ทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ศาลากลางหลายสิบคนไม่สามารถนำรถกลับบ้านได้


หลังจากนั้นเวลาประมาณ 20.30 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ได้เดินทางเข้าพบประชาชนที่ปักหลักอยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดฯ รวมถึงได้พบปะกับตัวแทนชาวบ้าน พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ ตั้งคณะทำงานพิจารณาเรื่องโรงไฟฟ้าขยะ รวมถึงตรวจสอบการทำงานของส่วนราชการในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมองว่าการทำประชาคมเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ชาวบ้านเกือบทั้งหมดเดินออกจากสถานที่จัดเวทีเสวนา ไม่มีการลงมติในที่ประชุม แต่เอกสารที่ออกมาภายหลังกลับพบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบด้วย


ในขณะที่มีประชาชนที่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะได้เข้ายื่นรายชื่อผู้เห็นชอบโครงการ 1,234 ราย ในขณะที่ทางฝั่งผู้คัดค้านได้ยื่นรายชื่อประชาชนที่ไม่เห็นชอบมากกว่า 3,000 ราย แต่ทางจังหวัดฯ ก็ยังให้เรื่องผ่านประชาคมทั้งที่เป็นฝั่งเสียงข้างน้อย โดยในขณะนี้เรื่องได้ถูกส่งไปยังส่วนกลาง รวมถึงมีการอนุมัติโครงการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการหาผู้รับเหมาก่อสร้าง


ชาวบ้านจึงอยากให้ผู้ว่าฯสั่งระงับการก่อสร้างโครงการไปก่อน แล้วกลับมาเริ่มขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนกันใหม่ โดยจะต้องดำเนินการแบบโปร่งใส ไม่ทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบครั้งก่อน ซึ่งผู้ว่าฯ ก็ได้รับปากกับประชาชนว่ามีการดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่ของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเสียงเห็นด้วยและเสียงคัดค้าน พร้อมให้มีการทำประชาพิจารณ์ใหม่อีกครั้ง ก่อนที่ประชาชนต่างพอใจและแยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเรื่องบานปลายร้ายแรงแต่อย่างใด
















กำลังโหลดความคิดเห็น