xs
xsm
sm
md
lg

แกนนำแดงอีสานติง “ก้าวไกล-ด้อมส้ม” อย่าสร้างความวุ่นวายปูทางรัฐประหาร เพื่อไทยจำเป็นต้องกลืนเลือดจับมือภูมิใจไทยตั้งรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ แกนนำสตรีเสื้อแดงภาคอีสานแบะท่าหมดเปลือก วอนเห็นใจพรรคเพื่อไทยหลังต้องจับมือภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาล อ้างเป็นการกลืนเลือดเพื่อชาติเพื่อนำพาประเทศชาติให้เดินหน้าต่อได้ แนะพรรคก้าวไกลและบริวารด้อมส้ม อย่าสร้างเงื่อนไขสร้างความขัดแย้งเพราะอาจนำไปสู่การรัฐประหาร และเมื่อนั้นประชาชนจะรุมตำหนิก้าวไกลเป็นตัวปัญหาให้เกิดรัฐประหาร

นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสตรีเสื้อแดงภาคอีสาน
นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสตรีเสื้อแดงภาคอีสาน ให้ความเห็นกรณีที่พรรคเพื่อไทยแถลงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทยว่า กรณีนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 ซึ่งทุกพรรคก็พยายามใช้วาทกรรมเพื่อที่จะให้ประชาชนสนับสนุนพรรคของตนเอง ในความเป็นจริงจะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยใช้รูปแบบการหาเสียงสนับสนุนแบบนี้น้อยกว่าพรรคอื่นด้วยซ้ำ ตอนนั้นเป็นการหาคะแนนเสียงสนับสนุน แต่ตอนนี้มันเป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง เป็นเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งเราต่างรู้กันดีว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้กรอบกติกาที่เผด็จการวางเอาไว้ โดยมี ส.ว. จำนวน 250 คน คอยสกัดอำนาจของประชาชน เห็นได้ชัดเจนตอนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ผ่านการโหวตเป็นนายกฯ คราวนี้เมื่อฝ่ายประชาธิปไตย 2 ค่ายใหญ่ คือ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคก้าวไกลมีโอกาสในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างเต็มที่แล้ว แต่กลับไม่สามารถผ่านด่าน ส.ว.ได้ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการฝ่าด่านเผด็จการให้ได้ เพื่อให้ได้อำนาจมาสู่ประชาชนอย่างแท้จริง

“บางครั้งมันจำเป็นต้องกลืนเลือดตัวเอง โดยการข้ามไปแตะมือกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่านี่เป็นทางออกที่เหมาะสมในเวลานี้ดีกว่าที่เราจะไปแตะมือกับทหาร อย่างน้อยพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ ยังสามารถพูดคุยกันได้ โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เคยร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้นเวลานี้จึงเป็นเรื่องของ ส.ส.และพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องรีบจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด” นางพรรณวดีกล่าว และว่า




ตนเองไม่เห็นด้วยกับกลุ่มด้อมส้ม กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มทะลุวัง มาสร้างความวุ่นวาย มันทำให้วัฒนธรรมทางการเมืองของประเทศไทยเสื่อมถอย เวลานี้บ้านเมืองต้องการความสงบ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เมื่อไหร่ที่มีแต่ความวุ่นวายก็ทำให้คนเสื้อแดงอย่างเราคิดย้อนถึงประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดความรุนแรงขึ้น ตอนนี้เราต้องการสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้ดีขึ้น ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยว เวลานี้หากกลุ่มไหนที่ออกมาสร้างความวุ่นวาย ก่อกวน ก็จะได้รับการตำหนิจากประชาชน

ขณะนี้หลายฝ่าย ไม่เพียงเฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้นที่ตำหนิพรรคก้าวไกล แม้ว่าพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวโดยตรง แต่ทำให้เชื่อได้ว่าอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เป็นการแพ้แต่ไม่รู้จักแพ้ ตนเองเข้าใจ เห็นใจพรรคก้าวไกล แต่พรรคก้าวไกลก็ต้องพยายามใช้เวลาในการต่อสู้ เพราะการต่อสู้กับเผด็จการเบ็ดเสร็จไม่สามารถทำได้รวดเร็วอย่างที่คิด เหมือนกับการที่เราจะกระโดดข้ามคลอง แต่ตัวเรายังไม่ได้อยู่ในวัยที่แข็งแกร่งมากพอ ก็ไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้ ดังนั้นในเวลานี้ที่เราไม่สามารถกระโดดข้ามได้ เราควรหันมาช่วยกันค่อยๆ สร้างสะพานให้ข้ามคลองให้ได้ก่อน


นางพรรณวดีบอกอีกว่า อยากให้พรรคก้าวไกลยกมือสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล จะทำให้พรรคก้าวไกลได้รับความชื่นชมจากประชาชน แต่หากพรรคก้าวไกลยังสร้างความวุ่นวาย ก่อกวน ก็จะยิ่งทำให้ประชาชนตำหนิว่าทำตัวไม่เหมาะสม ท้ายที่สุดจะนำไปสู่การสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ปูทางให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร หากเป็นเช่นนี้พรรคก้าวไกลต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่จะตามมา ซึ่งการที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ก็เป็นกติกาทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องของบุญคุณอะไรทั้งสิ้น

กรณีที่พรรคเพื่อไทยฉีก MOU และตัดพรรคก้าวไกลออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งสังคมมองว่าในการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคเพื่อไทยจะสูญพันธุ์ มองว่าเป็นเพียงวาทกรรมที่นำมาปลุกปั่น ฉะนั้นเราจะต้องดึงทุกคนกลับมาอยู่กับความเป็นจริง อนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลทำหน้าที่ไม่ดี ประชาชนก็ไม่เลือก แต่หากทำงานได้ดีก็จะได้รับเลือกอย่างถล่มทลาย ส่วนพรรคก้าวไกลหากยังสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน จนนำไปสู่การเปิดทางให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร ประชาชนก็จะรุมพรรคก้าวไกลว่าเป็นตัวการทำให้ทหารทำรัฐประหาร


กำลังโหลดความคิดเห็น