พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ตำรวจอยุธยาบุกทลาย 2 แก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ตระเวนก่อเหตุหลายจังหวัด โดยสามารถติดตามยึดรถจักรยานยนต์และอะไหล่รถจักรยานยนต์ได้หลายรายการที่บ้านพัก โดยนำมาดัดแปลงแล้วโพสต์ขายในโซเชียล ราคาถูกกว่าท้องตลาด
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา พ.ต.ท.อภิมุข เสมสฤษดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.พระอินทร์ราชา พ.ต.ท.ไกรฤกษ์ กล่อมลอย สว.สส.สภ.พระอินทร์ราชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวจับกุมร่วมกันลักทรัพย์รายใหญ่ในท้องที่ได้จำนวน 2 แก๊ง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามเหตุร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมามีเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์จำนวนหลายครั้ง ทั้งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดสิงห์บุรี จึงได้บูรณาการทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง สภ.วังน้อย สภ.อุทัย สภ.ภาชี สภ.บางปะหัน และสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เร่งรัดหาตัวผู้กระทำความผิด จนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่รายใหญ่ คือ แก๊งค์นายทนงศักดิ์ หรือต้น พลีชีพ
โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค. เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา และสภ.นครหลวง ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายทนงศักดิ์ หรือต้น พลีชีพ อายุ 34 ปี ที่อยู่ 36/3 ม.2 ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี 2.น.ส.วันเพ็ญ หรือเพ็ญ ถ้วนถี่ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 198/1 ม.5 ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” จับกุมที่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 347 ม.10 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมยานหาพนะที่ใช้ก่อเหตุ คือ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ปี 2014 สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน บห 6879 พระนครศรีอยุธยา โดยสามารถติดตามยึดรถจักรยานยนต์และอะไหล่รถจักรยานยนต์ได้หลายรายการที่บ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
ซึ่งจากการสอบสวนนายทนงศักด์ และ น.ส.วันเพ็ญ ให้การรับว่าได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.สิงห์บุรี จ.ชัยนาท จ.ลพบุรี จ.ขอนแก่น รวมทั้งสิ้น 17 คัน สามารถติดตามมาได้ 7 คัน และอยู่ระหว่างติดตามอีก 10 คัน ส่วนใหญ่ เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์เอ็กซ์ ที่ตลาดต้องการ รวมถึงยี่ห้ออื่นๆ
โดยจะใช้รถยนต์กระบะตระเวนดู และให้ น.ส.วันเพ็ญ ลงไปดูรถจักรยานยนต์เพื่อระบุเป้าหมายว่าสามารถขโมยได้ง่ายหรือไม่ ก่อนลงมือใช้ประแจที่เตรียมมาแทงที่เบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์และนำขึ้นท้ายรถยนต์กระบะ ไปทำการรื้อเบ้ากุญแจที่แทงเสียหายเพื่อเปลี่ยนเบ้ากุญแจใหม่ ก่อนจะโพสต์ลงโซเชียลขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด
นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ตามใบสั่ง โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เวลาประมาณ 03.40 น. ตำรวจชุดสืบสวนและงานป้องกัน (สายตรวจ) สภ.พระอินทร์ราชา ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายคมสัน หรือช้าง แซ่ตั้ง อายุ 20 ปี ที่อยู่ 63/23 ม.4 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 2.นายวสัน หรือฟลุ๊ค รอบเพ็ชร อายุ 18 ปี ที่อยู่ 38/21 ม.3 ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฬฉก 15 กรุงเทพมหานคร (ยานพาหนะที่ถูกประทุษร้าย) 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน 1 กถ 6047 นครสวรรค์ (ยานพาหนะที่ใช้ขับขี่มาก่อเหตุ)
ในข้อหา “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ผู้อื่น” จับกุมที่ซอยสุขาภิบาล 5 ม.7 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยให้การรับว่าจะนำรถจักรยานยนต์ไปขายให้รุ่นพี่ ชื่อนายนิว พักอาศัยอยู่ภายในตัวอำเภอพระนครศรีอยุธยา ในราคาคันละ 4,000 บาท โดยจะก่อเหตุตามใบสั่งของนายทุน โดยรถยอดนิยม คือรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซูเมอร์เอ็กซ์ หากยังไม่ได้รถจักรยานยนต์ตามใบสั่งจะตระเวนไปเรื่อยๆ ตามหอพัก หากสบโอกาสพบรถจักรยานยนต์จอดไว้ตามหอพักที่ไม่มี รปภ. และไม่คล้องโซ่จะทำการลักทรัพย์โดยเครื่องมือทำลายเบ้ากุญแจ และนำรถจักรยานยนต์หลบหนีเพื่อนำไปขาย
พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การติดตามจับกุมได้ครั้งนี้ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เร่งรัดการปราบปรามการกระทำความผิดอาญาในลักษณะต่างๆ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชน โดยบูรณาการกำลังทุกฝ่าย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามเหตุร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน จนสามารถติดตามจับกุมได้ โดยจะมีการขยายผลเพื่อหาขบวนการหรือแก๊งปราบปรามให้หมดสิ้น
พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนให้ระมัดระวังในการจอดรถตามหอพัก ให้จอดที่ที่มีกล้องวงจรปิด มีแสงสว่างเพียงพอ อย่าจอดในมุมอับ อย่าจอดรถโดยแค่ล็อกคอรถเพียงอย่างเดียว ให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการป้องกัน เช่น คล้องโซ่ หรือล็อกดิสก์เบรกเพิ่มเติมเพื่อยากแก่การเข้ามาขโมย หากพบการกระทำความผิดให้รีบแจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่พบเหตุ หรือสายด่วนเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ทันที