กาญจนบุรี - ระทึกกลางดึก ครู-ชาวบ้านกลับจากงานศพ เจอน้ำหลากท่วมลำห้วยกลางป่าทุ่งใหญ่ฯ ต้องทิ้งจักรยานยนต์เดินลุยน้ำสูงเท่าอก สุดท้ายปลอดภัย
ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “PuNu Bong” นำคลิปวิดีโอขณะเดินลุยน้ำสูงระดับหน้าอกมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งคลิปดังกล่าวค่อนข้างสร้างความระทึกให้ทุกคนที่ได้ดู แต่คนในคลิปยังยิ้มแย้มแจ่มใสและพูดจากันอย่างอารมณ์ดี โดยได้ระบุว่า “การเดินทางเข้าบ้านวันนี้...เดินลุยน้ำสิคร้าบ รถมอเตอร์ไซค์จอดทิ้ง...น้ำลดแล้วค่อยไปเอา ดีหน่อย...ที่ติดไฟฉายไว้ในกระเป๋า ใครจะเดินทางเข้าออก...เช็กสถานการณ์น้ำด้วยนะคร้าบ” โดยคลิปดังกล่าวโพสต์เอาไว้ช่วงเวลา 22.00 น.ของคืนวันที่ 3 ส.ค.66 ที่ผ่านมา
ต่อมา เวลา 09.00 น.วันนี้ (4 ส.ค.) เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Supachai Ponthip ได้แชร์โพสต์ พร้อมกับกล่าวให้กำลังใจว่า “# ขอส่งกำลังใจให้คุณครู และพี่น้องชาวบ้านเกาะสะเดิ่งทุกคนนะครับ ช่วงนี้ในพื้นที่ฝนตกติดต่อกันมานาน 8 วันแล้ว การเดินทางเข้าออกหมู่บ้านบางครั้งมีอุปสรรคเจอน้ำป่า แต่ด้วยภูมิปัญญา และประสบการณ์ที่มีเชื่อว่าทุกคนเอาตัวรอดได้ไม่อยาก # ขอให้ทุกคนปลอดภัย และถ้าเป็นไปได้ขอให้อย่ามีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 61 อีก”
ทั้งนี้ นายภพธร กิตติคุณก้องไพร ครูโรงเรียนบ้านกองม่องทะ (สาขาบ้านเกาะสะเดิ่ง) หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นผู้นำคลิปมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก กล่าวว่า หลังจากเดินเท้าจากจุดที่ต้องลุยน้ำป่ามาถึงโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย พร้อมเพื่อนครูและชาวบ้าน การโพสต์เฟซเพื่อเตือนให้ชาวบ้านหรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเกาะสะเดิ่งให้ระมัดระวัง เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกติดต่อกันมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งภายหลังจากฝนตกมักจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก จนบางครั้งสูงขึ้นมาท่วมถนน เนื่องจากเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นเส้นทางป่า บางช่วงขนานไปกับแม่น้ำโรคี่ บางช่วงห่างจากแม่น้ำโรคี่เพียง 1-2 เมตรเท่านั้น
นอกจากนี้ ระหว่างทางต้องข้ามลำห้วยเล็กๆอีกหลายจุด ซึ่งลำห้วยเหล่านี้หากไม่เกิดน้ำป่าจะไม่มีปัญหาในการข้าม แต่หากเกิดน้ำป่าไหลหลากจะกลายเป็นปัญหา เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยว อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ บางครั้งต้องรอนานหลายชั่วโมงกว่าน้ำจะลดลง ที่สำคัญการเดินทางในช่วงนี้หากเป็นไปได้ไม่ควรเดินทางเพียงลำพัง แต่ควรมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อคอยช่วยเหลือยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และควรพกพาไฟฉายติดตัวไปด้วยทุกครั้ง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น เป็นช่วงระหว่างที่ชาวบ้านและครูใช้รถจักรยานยนต์เดินทางออกจากบ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ 3 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อมุ่งหน้าไปร่วมงานศพของญาติ ที่บ้านกองม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 11 กิโลเมตร ขณะนั้นฝนยังไม่ตกลงมาทำให้ไม่มีน้ำป่าไหลหลาก
แต่ระหว่างร่วมงานศพฝนได้ตกลงมาติดต่อกันนานหลายชั่วโมง หลังจากที่ทุกคนไปร่วมงานศพแล้วเสร็จ จึงขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับ ซึ่งเหลืออีกแค่ประมาณ 4 กิโลเมตรเท่านั้นจะกลับถึงบ้านเกาะสะเดิ่ง แต่ปรากฏว่า น้ำในลำห้วยได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นและไหลเชี่ยว จึงจำเป็นต้องทิ้งรถจักรยานยนต์เอาไว้กลางป่า แล้วตัดสินใจเดินลุยข้ามลำห้วยที่ระดับน้ำสูงเท่าอก โดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่มาทำไร่และนอนพักอยู่ในกระท่อมใกล้ลำห้วยมาช่วยกันนำครูและชาวบ้านข้ามลำห้วยได้อย่างปลอดภัย
สำหรับบ้านเกาะสะเดิ่ง หมู่ 3 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีประชากร 365 คน 95 ครัวเรือน มีวัด 1 แห่ง และโรงเรียน 1 แห่ง ลักษณะภูมิประเทศตั้งอยู่ในหุบเขาโดยมีแม่น้ำโรคี่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน โดยรอบหมู่บ้านเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนจึงทำให้มีฝนตกชุก