ปราจีนบุรี - ร่างเด็กชายวัย 9 ขวบจมน้ำทะเลหาดแม่รำพึง จ.ระยอง ถึงบ้านเกิดแล้วตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปากแพรก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พ่อยันขณะเกิดเหตุไม่มีการปักธงแดงเตือนนักท่องเที่ยว ส่วนแม่ร่ำไห้ปานจะขาดใจ
จากเหตุการณ์เด็กชายวัย 9 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง พร้อมครอบครัวช่วงวันหยุดยาว จนเป็นเหตุให้สูญหายในทะเลจากภาวะคลื่นลมแรง โดยพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุมีการปักธงแดงแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำหลัง ปภ.ระยอง ประกาศให้หน่วยงานพื้นที่เฝ้าระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง และฝนตกหนัก เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (31 ก.ค.) พ.ต.ต.สุนันต์ มณีเทพ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพ ด.ช.กวิน อายุ 9 ปี ลอยอยู่บริเวณลานหินขาวหินดำ ห่างจากฝั่งประมาณ 15 เมตร และอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลระยอง และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนให้ครอบครัวนำร่างกลับบำเพ็ญกุศลที่ จ.ปราจีนบุรี บ้านเกิดนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.50 น.วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของเด็กชายวัย 9 ปี ได้นำร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดปากแพรก ม.3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย นำรถกู้ภัยช่วยเคลื่อนย้ายร่าง
ขณะที่ นายณรงค์ศักดิ์ อายุ 42 ปี บิดาของเด็กชายวัย 9 ปี บอกว่า ก่อนเกิดเหตุคลื่นลมในทะเลยังไม่แรงและยังมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก และยืนยันว่าขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการนำธงแดงมาปักเตือนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นแล้วจึงมีธงดังกล่าว
พร้อมตั้งคำถามกลับว่า หากมีการปักธงแดงเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำจริง เหตุใดจึงปล่อยให้ผู้ประกอบการให้บริการเช่าห่วงยางได้
“น้องเขาเล่นอยู่กับลุง ซึ่งขณะนั้นทุกคนเตรียมที่จะกลับบ้านกันแล้ว แต่ลูกอยากเล่นต่อเพราะเขาไม่เคยมาเที่ยวทะเล และเผลอไปแค่นิดเดียวน้องถูกคลื่นดูดอย่างแรงและเขายกมือขึ้น 1-2 ครั้ง ซึ่งเราพยายามจะช่วยลูกแล้วแต่ช่วยไม่ได้ และขณะเกิดเหตุน้องอีกคนยังสวมห่วงยางเล่นน้ำอยู่ ส่วนลูกชายนั่งอยู่บนห่วงยางและเมื่อมีคลื่นพัดมาร่างกระเด็นหลุดออกจากห่วงยาง”
นายณรงค์ศักดิ์ ยังบอกอีกว่า ขณะที่ครอบครัวกำลังนำร่างลูกชายใส่ในโลงเย็นปรากฏว่ารูปที่ตั้งไว้หน้าโลงได้ล้มคว่ำตกลงมาใส่กระถางธูป จึงทำให้เชื่อว่าลูกกลับบ้านมาด้วยเพราะตนเองเรียกลูกกลับบ้านตลอดทาง
และจากการพูดคุยกับ นางสมบูรณ์ ซึ่งเป็นยายบอกว่าตนเองได้เลี้ยงดูหลานชายมาตั้งแต่แรกเกิดเนื่องจากพ่อและแม่แยกทางกัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุพ่อได้มาขอพาหลานชายไปเที่ยวทะเล และหลานอยากไป เพราะยังไม่เคยได้ไปไหนแต่สุดท้ายกับเกิดเหตุเศร้าขึ้นซึ่งขณะนี้ตนเองยังรับไม่ได้
ขณะที่แม่ของเด็กชายยังคงร้องไห้ปานจะขาดใจ และพูดแต่ว่า "แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน แม่รักลูกมาก"