ระยอง - มาอีกแล้วมิจฉาชีพหลอกป้ายยา 2 ผัวเมียเจ้าของแผงทุเรียนเมืองแกลง สูญเงิน 1.2 ล้าน พฤติกรรมหลอกร่วมลงทุนซื้อขายที่ดินแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้อย่างงามจนหลงเชื่อ ซ้ำผู้ร่วมขบวนการยังอ้างเป็นผู้ซื้อนำเงินใส่ถุงโชว์ สบช่องป้ายยาพาเบิกเงินอ้างเป็นค่าไถ่ถอน สุดท้ายเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้ เงินในธนาคารก็หาย
วันนี้ (24 ก.ค.) นายสัญชัย อายุ 65 ปี และนางประเทือง นามวง อายุ 67 ปี สองสามีภรรยาซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 43/3 ม.10 ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน และนางสุภัสสร เจริญวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ร่วมลงทุนซื้อขายที่ดินสูญเงินจำนวน 1.2 ล้านบาท
โดย 2 สามีภรรยาต้องการให้เรื่องของตนเป็นอุทาหรณ์เตือนใจแก่ประชาชนทั่วไปที่จะต้องไม่ปล่อยให้ความโลภครอบงำจิตใจจนตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ
นายสัญชัย บอกว่า ตนเองได้เปิดแผงรับซื้อทุเรียนอยู่ที่ศาลาที่พักริมทางบนถนนสายเลี่ยงเมืองสี่แยกบายพาส บ้านหนองกันเกรา ต.ทางเกวียน อ.แกลง ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชายอ้างว่ามีเงินหลาย 10 ล้านบาทที่ได้มาจากการขายที่ดินใน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และต้องการจะหาซื้อที่ดินใน อ.แกลง เพื่อเก็บไว้ พร้อมได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้กับตนเอง
และในวันต่อมา ชายคนดังกล่าวได้กลับมาหาตนเองอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนที่มาด้วยกันและบอกว่า ขณะนี้สามารถหาที่ดินได้แล้วมีเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่เศษ โดยเจ้าของประกาศขายในราคา 10.8 ล้านบาท กระทั่งมีหญิงอีกรายที่อ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าของที่ดิน แต่ออกอุบายว่าที่ดินผืนดังกล่าวยังติดจำนองอยู่ต้องและต้องไปไถ่ถอน
“ตอนนั้นมิจฉาชีพทั้ง 3 รายได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนและบอกว่าหากที่ดินแปลงดังกล่าวขายได้จะแบ่งให้ 5 เปอร์เซ็นต์จากราคาที่ขายได้ แต่จะต้องช่วยหาเงินไถ่ถอนที่ดินที่ยังติดอยู่กับธนาคาร จำนวน 1.2 ล้านบาท จากนั้นมีหญิงอีกคนขับรถยนต์ใส่ทองเต็มตัวเข้ามาบอกว่าจะซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวให้บริษัทแห่งหนึ่งพร้อมโชว์เงินในซองสีน้ำตาล”
นายสัญชัย ยังเล่าต่อว่า ขณะกำลังพูดคุยกับหญิงสาวรายล่าสุด ปรากฏว่าหญิงสาวรายนี้ได้ทำทีเซถลามาหาตนและภรรยา พร้อมบอกว่ามีอาการเวียนหัวก่อนจะใช้มือลูบทั่วร่างกายของตนและภรรยา กระทั่งตนและภรรยาเกิดอาการเบลอคล้ายคนถูกป้ายยา
จากนั้นบุคคลทั้ง 4 ได้พาตนขึ้นรถยนต์ไปเบิกเงินที่ธนาคาร จำนวน 1.2 ล้านบาท และยังพาไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินที่ติดจำนองอยู่กับธนาคาร ก่อนจะพาตนมาทิ้งไว้ที่ศาลาที่พักริมทางและบอกว่าจะนำเงินเปอร์เซ็นต์ค่าขายที่ดินมาให้ใน 1 สัปดาห์ทกระทั่งถึงวันนี้ยังไม่สามารถติดต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้
จึงมั่นใจว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่ทำงานกันเป็นขบวนการ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ สภ.แกลง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ให้ได้
ขณะที่ นางสุภัสสร เจริญวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ทางเกวียน บอกว่าแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้ทำงานเป็นทีมเพื่อหลอกลวงประชาชน และยังมีการก่อเหตุด้วยการป้ายยาก่อนจะไปเบิกเงินจากธนาคาร
“โชคดีที่แก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ไม่เห็นสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทของผู้เสียหายที่เก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย ไม่เช่นนั้นคงถูกหลอกเอาไปด้วย จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยแจ้งเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้ประชาชนว่าไม่ควรหลงเชื่อเรื่องการหลอกลงทุนโดยเด็ดขาด” ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 กล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แกลง ได้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่คาดว่าแก๊งคนร้ายจะขับรถหลบหนี เพื่อหาเบาะแสในการติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว