สามเหลี่ยมทองคำ – สปป.ลาว ออกหนังสือเวียนแจ้งไปทั่วแล้ว..ประกาศปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ห้ามคนเข้าออกชั่วคราวช่วง 5 ทุ่มครึ่ง-ตีห้า ตั้งแต่วันนี้(22 ก.ค.)-5 สิงหาฯ คาดจัดระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ หลังจีนลุยเข้าปราบทุนเทาหนัก
รายงานข่าวจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แจ้งว่าคณะคุ้มครองเขตเศรษฐกิจพิเศษ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้มีหนังสือลงนามโดยท่านบุนทอง แสงสิกอง หัวหน้าคณะคุ้มครอง เขตเศรษฐกิจพิเศษฯ แจ้งไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปว่าได้มีการปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลียมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ซึ่งอยู่ริมฝั่งน้ำโขงตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นการชั่วคราว
หนังสือมีเนื้อหาว่าคณะคุ้มครองฯ และสภาบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ขอแจ้งหน่วยงานต่างๆ และนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ ได้รับทราบว่าจะมีการปิดการเข้าและออกเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 23.30-05.00 น.หรือเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.-5 ส.ค.นี้ หรือเป็นเวลา 15 วัน เพื่อปฏิบัติมาตรการป้องกันและควบคุม รวมถึงแก้ไขแก้ไขสถานการณ์ภายในบางอย่างด้วย
ในหนังสือดังกล่าวไม่ได้แจ้งเหตุผลการปิดพื้นที่อย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ แจ้งว่าเป็นการทดลองระบบรักษาความปลอดภัยเท่านั้น
ทั้งนี้ตามปกติแล้วเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำมีสถานบันเทิงในยามค่ำคืนเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถเห็นแสงสีและเสียงในช่วงกลางคืนได้อย่างชัดเจน ขณะที่จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน เปิดให้มีการเดินทางเข้าออกจากฝั่งไทยตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.จึงไม่มีผลต่อการเดินทางเข้าออกในเวลาปกติแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่ามาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสว่าทางการจีนได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าไปปราบปรามกลุ่มทุนชาวจีนสีเทาที่ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำอย่างหนัก จนทำให้หลายคนที่เกี่ยวข้องต้องหลบหนีออกนอกพื้นที่
ขณะที่ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทางการเมียนมาก็ได้ใช้มาตรการห้ามชาวต่างชาติทำวีซ่าเข้าและออก รวมทั้งเข้าปราบปรามกลุ่มทุนสีเทาที่กำลังเติบโตใน จ.ท่าขี้เหล็ก มาตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา และล่าสุดยังมีประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ กรุงเนปิดอว์ และเมืองแฮโอ ไปยังเมืองล่าเสี้ยว-ท่าขี้เหล็ก แต่ไม่มีรายงานว่าทางการจีนได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการดังกล่าวด้วยหรือไม่.
