สามเหลี่ยมทองคำ - ทุนเทา-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลุ่มน้ำโขงหนีกันกระเจิงแล้วหลายราย..หลังจีนส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ ผนึกกำลัง สปป.ลาวกวาดล้างธุรกิจผิดกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ-เรียกคนโตเข้าชี้แจง ขณะที่พม่าลุยปราบด้วย
แหล่งข่าวในเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แจ้งว่า ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษจาก สป.จีน เดินทางเข้าไปในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว เข้าไปกวาดล้างกิจการที่อาจก่อตั้งขึ้นมาเพื่อกระทำผิดกฎหมายหรือก่ออาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ประกอบธุรกิจหลากหลายโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลายเป็นข่าวโด่งดัง
ซึ่งผลปฏิบัติการพบว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าปราบปรามกลุ่มทุนที่เข้าไปลงทุนแล้วอย่างน้อย 3 บริษัท เนื่องจากพบว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจการทุนสีเทาดังกล่าว และทำให้มีคนหลบหนีออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวแล้วหลายราย ส่วนใหญ่หนีอยู่ในพื้นที่อื่นของ สปป.ลาว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางการจีนได้เรียกตัวชาวจีนที่เป็นเป้าหมายให้กลับไปรายงานตัวต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน สป.จีน หนึ่งในนั้นมีรายงานว่าอาจจะเป็นผู้บริหารระดับสูงในคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำด้วย อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีใครเดินทางไปรายงานตัวตามคำสั่ง ขณะที่กิจการต่างๆ ในเขตเศรษฐกิจยังคงเดินหน้าพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2550 โดยมี “จ้าวเหว่ย” นายทุนชาวจีน เป็นผู้นำลงทุนในนามกลุ่มดอกงิ้วคำ ภายใต้สัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว เป็นเวลา 99 ปี จนถึงขณะนี้มีการพัฒนาในพื้นที่สัมปทานแล้วไม่น้อยกว่า 2,173 เฮกตาร์ หรือ 13,581 ไร่ จากพื้นที่ในโครงการทั้งหมดประมาณ 10,000 เฮกตาร์ หรือ 62,500 ไร่ ครอบคลุมริมฝั่งแม่น้ำโขง ติดกับสามเหลี่ยมทองคำ ไปตลอดแนวจนถึงท่าเรือบ้านมอมและเขตป่าเขาสายพูกิ่วลมของแขวงบ่อแก้ว
ปัจจุบัน “เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ” เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน ฯลฯ มีทั้งท่าเรือ ด่านสากล ถนน แนวป้องกันตลิ่งแม่น้ำโขง พื้นที่ทางการเกษตร ตลาด อาคารพาณิชย์ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า รีสอร์ต โรงแรม ศูนย์การแสดงบนเกาะดอนซาว กาสิโน ไชน่าทาวน์ สนามบิน ศูนย์กีฬา ตลาดน้ำ ที่อยู่อาศัย ฯลฯ มูลค่าเงินลงทุนที่ผ่านมาประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้มักถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาในประเทศไทย หรือกลายเป็นแหล่งที่กลุ่มทุนเหล่านี้เข้าไปตั้งกิจการ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่นายจ้าวเหว่ยก็ออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงเวลาเดียวกันทางการประเทศเมียนมาซึ่งได้งดออกวีซ่าให้ชาวต่างชาติเข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมเปิดปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มทุนนอกระบบใน จ.ท่าขี้เหล็กอย่างหนัก ล่าสุดยังขยายมาตรการห้ามชาวต่างชาติเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ กรุงเนปิดอว์ และเมืองแฮโอ ไปยังเมืองล่าเสี้ยว-เมืองท่าขี้เหล็กอีกด้วย
