เชียงใหม่ - จนท.ชุดกู้ภัยจัดโดรนตรวจจับความร้อนขึ้นบินควบคู่ปูพรมเดินเท้าค้นหาตัวประธานสภาเทศบาลตำบลสันมหาพน ที่หายตัวออกจากบ้านไปเป็นวันที่สามแล้วแต่ยังไร้วี่แวว โดยพบสัญญาณการเปิดใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความหาลูกชายอยู่ในป่าใกล้หมู่บ้าน ด้านพี่สาวเชื่อถูกผีบังตาเตรียมจัดเครื่องเซ่นไหว้ขอให้เจอตัว พร้อมเผยเคยหายตัวออกจากบ้านไปลักษณะเดียวกันนี้ครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว
ความคืบหน้ากรณีนายไพโรจน์ เมฆขยาย อายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 บ้านหนองหล่ม ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลและประธานสภาเทศบาลตำบลสันมหาพน ที่หายตัวไปตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 17 ก.ค. 66 โดยจุดสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นและกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้อยู่ที่บริเวณฝายสินธุกิจปรีชา (ฝายแม่แฝก) ที่กั้นแม่น้ำปิง เขตรอยต่อตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง กับตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเห็นนายไพโรจน์เดินข้ามไปอยู่ทางฝั่งตำบลแม่แฝก และไม่ได้ย้อนกลับมาอีก รวมทั้งไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ ต่อมาทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความคนหาย และมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลตำบลสันมหาพน รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง ทำการออกค้นหาตลอดทั้งวันวานนี้ (18 ก.ค. 66) ตั้งแต่เช้าจนค่ำแต่ยังไม่พบตัว
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (19 ก.ค. 66) เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลตำบลสันมหาพน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่แตง, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, ชาวบ้าน และญาติของนายไพโรจน์ ยังคงระดมกำลังออกค้นหาตัวนายไพโรจน์อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงบ่ายวันนี้ได้ช่วยกันออกค้นหาบริเวณป่าในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านหนองหล่ม ตำบลสันมหาพน ซึ่งเป็นบริเวณล่าสุดที่ตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของนายไพโรจน์ ตามที่ครอบครัวให้ข้อมูลว่าช่วงเช้าวันนี้นายไพโรจน์ได้เปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือและส่งข้อความทางไลน์ถึงลูกชาย จึงเชื่อว่านายไพโรจน์น่าจะยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ บริเวณที่ค้นหามีสภาพเป็นที่ดินรกร้างมีต้นไม้ค่อนข้างหนาทึบ และอยู่ไม่ห่างจากบ้านของนายไพโรจน์ โดยทีมกู้ภัยขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการนำโดรนตรวจจับความร้อนเข้าร่วมปฏิบัติการขึ้นบินค้นหาทางอากาศ ควบคู่กับการเดินเท้าค้นหาของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังคงไม่พบตัวนายไพโรจน์ ขณะที่ครอบครัวและญาติได้ร่วมค้นหาด้วย โดยได้ส่งเสียงตะโกนเรียกหานายไพโรจน์ พร้อมทั้งยกมือไหว้วิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์และผีป่าเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อขอให้พบตัวนายไพโรจน์โดยเร็ว
ด้านนางพิไลย์ กันทาสี อายุ 65 ปี พี่สาวของนายไพโรจน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นห่วงน้องชายที่หายตัวไปอย่างมาก หลังจากที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 66 โดยทางบ้านคิดว่าออกไปหาปลาหรือเข้าป่าเก็บของป่าตามปกติ แต่กลับขาดการติดต่อและหายตัวไป จนต้องมีการขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการระดมกำลังค้นหาแต่ก็ยังไม่พบ แต่เชื่อว่าน้องชายยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะช่วงเช้าวันนี้นายไพโรจน์ได้เปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือส่งข้อความทางไลน์หาลูกชายบอกว่าได้ยินเสียงลูกชายตะโกนตามหา และคิดถึงลูกชายกับหลาน โดยจะกลับบ้านเร็วๆ นี้ โดยการที่ยังค้นหาตัวนายไพโรจน์ไม่พบนั้น ตามความเชื่อเป็นไปได้ว่าอาจจะถูกผีบังตา ซึ่งได้บนบานขอให้พบตัวแล้วจะนำอาหารและสิ่งของมาเซ่นไหว้
นอกจากนี้ นางพิไลย์เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้วนายไพโรจน์เคยหายตัวไปในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ระหว่างที่ออกไปเก็บเห็ดในป่า นาน 1 วัน 1 คืน และช่วยกันออกค้นหาแล้วแต่ไม่พบ ก่อนที่ในเวลาต่อมานายไพโรจน์จะโทรศัพท์ติดต่อมาหาตัวเองบอกว่าตกต้นไม้ได้รับบาดเจ็บและแจ้งพิกัดให้ไปค้นหาในป่าจนกระทั่งพบตัวในสภาพบาดเจ็บซี่โครงหัก 5 ซี่ สำหรับการหายตัวไปในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับปัญหาส่วนตัวหรือไม่นั้น น้องชายเป็นคนที่ไม่มีปัญหากับผู้อื่น แม้จะทำงานการเมืองท้องถิ่นแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเพราะวางตัวเป็นกลาง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเป็นไปได้ที่อาจจะมีความเครียดจากปัญหาอะไรบางอย่าง แต่เนื่องจากน้องชายเป็นคนเงียบและไม่เคยเล่าเรื่องราวใดๆ ให้ฟัง จึงไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ อย่างไร
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่านายไพโรจน์มีอาการหลายอย่างคล้ายซึมเศร้า และที่ผ่านมาเคยมีความพยายามจะก่อเหตุฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว โดยแขวนคอกับต้นไม้ แต่ครั้งนั้นกิ่งไม้หักและญาติมาพบเห็นเหตุการณ์จึงช่วยไว้ได้ ซึ่งการหายตัวไปในครั้งนี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาความเครียดส่วนตัวหรือไม่ แต่คนรอบข้างของนายไพโรจน์ต่างมีความเป็นห่วงกังวลว่านายไพโรจน์ จะก่อเหตุซ้ำอีก และอยากค้นหาตัวให้พบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ช่วงค่ำวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาแล้ว และจะวางแผนออกปฏิบัติการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค. 66)
