xs
xsm
sm
md
lg

ผ่านไป 4 เดือนไร้เยียวยา! พ่อ “น้องพลอยใส” เหยื่อแก๊งลักรถซิ่งหนี ตร.ชนตาย จี้ “ตร.ลพบุรี” รับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - พ่อน้องพลอยใส ชาว อ.ชำนิ เหยื่อแก๊งลักรถซิ่งหนีตำรวจถูกชนตายที่พระนครศรีอยุธยา เรียกร้องให้ตำรวจลพบุรีหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบ หลังสูญเสียลูกสาวความหวังเดียวของครอบครัวไปเกือบ 4 เดือนไร้เยียวยา ซ้ำประกันปฏิเสธจ่ายสินไหมอ้างเป็นรถถูกขโมย ต้องหยิบยืมเงินจัดงานศพและทำบุญ 100 วัน

วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธกลเกียรติ สำอางค์ อายุ 53 ปี ผู้เป็นพ่อ พร้อมครอบครัวญาติพี่น้อง ได้ร่วมกันทำบุญ 100 วันให้กับนางสาวอิศราพร สำอางค์ อายุ 24 ปี หรือ “น้องพลอยใส” ที่วัดชนะตาราม ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ หลังจากถูกแก๊งคนร้ายโจรกรรมรถขับพุ่งชนเสียชีวิตขณะขับหลบหนีตำรวจลพบุรีที่กำลังไล่ล่า เหตุเกิดในเขตพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ระหว่างที่น้องพลอยใสกำลังเดินกลับบ้านพัก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนายธกลเกียรติ ผู้เป็นพ่อ ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักและเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว


นายธกลเกียรติ สำอาง พ่อของ “น้องพลอยใส” ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว และครอบครัวด้วย เพราะหลังจากสูญเสียลูกสาวไปเกือบ 4 เดือนยังไม่ได้รับการเยียวยาทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ลพบุรีที่ขับรถไล่ล่าคนร้ายจนทำให้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนลูกสาวตนเอง รวมถึงครอบครัวของผู้ต้องหาเองก็ไม่เคยมาดูแลเยียวยาอะไรเลย

แถมล่าสุดทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ยังได้ส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาค่าสินไหมกรณีดังกล่าว ซึ่งได้ปฏิเสธการจ่ายสินไหมทดแทน โดยให้เหตุผลว่าความเสียหายที่เกิดจากรถที่ถูกลักทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้ประสบภัยได้รับอันตรายต่อชีวิต เป็นรถที่มิได้อยู่ในความครอบครองของเจ้าของรถ” มีเพียง คปภ.ที่ช่วยเหลือเงินค่าทำศพ 35,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ตนเองและครอบครัวต้องหยิบยืมเงินมาจัดงานศพและทำบุญ 100 วันให้กับลูกสาวหมดไป 200,000 บาท

นางสาวอิศราพร สำอางค์ อายุ 24 ปี หรือ “น้องพลอยใส”  ผู้เสียชีวิต
หากไม่ได้รับการเยียวยาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกของตนเองเสียชีวิต ก็เหมือนกับลูกสาวต้องตายฟรี ทั้งที่ลูกของตนเองเป็นความหวังของครอบครัว เป็นคนสู้ชีวิตทำงานส่งเสียตัวเองเรียนซึ่งหากจบมาจะได้ทำงานที่มีความมั่นคงเป็นเสาหลักของครอบครัวได้

“จึงได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ก็ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว และหากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไปจนถึงที่สุด” นายธกลเกียรติกล่าวในตอนท้าย






กำลังโหลดความคิดเห็น