“ทนายรณณรงค์” พายาย “น้องโค้ก” เหยื่อกระสุนโปลิศบ้านกลาง ร้อง ปปป. เอาผิดตำรวจกร่างยิงปืนใส่หัวหลานอาการสาหัส เผย ท้องที่ไม่รับแจ้งความ อ้างคนยิงลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา นางมนัด พาแก้ว อายุ 56 ปี น.ส.เอื้อมพร สมสี อายุ 40 ปี ยายและป้าของ ด.ช.โค้ก อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ถูกตำรวจ สภ.บ้านกลาง จ.เพชรบูรณ์ 4 นาย ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ รพ.เพชรบูรณ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.จิรวัฒน์ ทองท่า สารวัตร (สอบสวน) กก.5 บก.ปปป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว
นายรณณรงค์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ด.ช.โค้ก ไปร่วมงานบวชภายในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยภายในงาน ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ ซึ่งหลังเกิดเรื่องในตอนแรกทางตำรวจมีการแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังรถฉุกเฉิน โดยอ้างว่า ผู้บาดเจ็บประสบอุบัติเหตุขณะหนีตำรวจ ทั้งๆ ที่มีพยานเป็นเด็กอายุ 16 ปี เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ยืนยันว่า เป็นการตั้งใจยิงของตำรวจ
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตำรวจชุดดังกล่าวได้ลงบันทึกประจำวันว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่นขณะใช้อาวุธปืนขู่ให้เด็กหยุดหลังมีการไล่เด็กออกมาจากเหตุทะเลาะวิวาทภายในงานบวช ซึ่งตนเองมองว่าเรื่องนี้มีความผิดปกติ เพราะเรื่องเกิดตั้งแต่ช่วงเวลา 16.30 น. แต่กลับนำเด็กไปส่งโรงพยาบาลในช่วงเวลา 6 โมงกว่า ทั้งๆ ที่โรงพยาบาลอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปไม่เกิน 10 นาที อีกทั้งตอนแรกมีการประสานขอรถฉุกเฉิน โดยอ้างว่ามีคนเจ็บจากเหตุอุบัติเหตุรถชน แต่ภายหลังได้แจ้งลงบันทึกประจำวันว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น
ด้าน นางมนัด กล่าวว่า เมื่อทราบเรื่องก็ได้พยายามเดินทางมาแจ้งความกับทางตำรวจเจ้าของพื้นที่ แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความโดยให้เหตุผลว่าได้ลงบันทึกประจำวันไว้ว่าเป็นอุบัติเหตุอาวุธปืนลั่น ซึ่งคนแจ้งก็คือคนที่เป็นผู้ก่อเหตุนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาทำนองว่าจะมีการไกล่เกลี่ย ซึ่งตนเองยืนยันว่าเหตุการณ์นี้จะดำเนินการทางคดีเอาผิดกับทางตำรวจคนนี้ให้ถึงที่สุด
“ตำรวจคนนี้มักดื่มเหล้าเป็นประจำและชอบทำตัวกร่าง แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุรุนแรงกับหลานแบบนี้ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการมึนเมา เพราะมีคนเห็นว่าเขาได้ดื่มสุราในงานบวชด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อาการของหลานชายยังอยู่ในขั้นโคม่า แพทย์บอกให้ทางครอบครัวทำใจ หลานยังไม่รู้สึกตัวเพราะบาดแผลถูกยิงเข้าที่กะโหลกด้านขวาทะลุด้านซ้าย วันนี้จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือต่อ บก.ปปป. เพราะตำรวจในพื้นที่ไม่ยอมรับคดีนี้” นางมนัด กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ร้องไว้ พร้อมประสานไปยัง สภ.บ้านกลาง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป