ราชบุรี - เพื่อนนักท่องเที่ยวต่างชาติร้องสื่อ ถูกโกงค่านั่งเรือท่องเที่ยว อ้างเสียค่าหัวละ 3,000 ขณะที่เจ้าอื่นราคาเหมาเพียง 500-800 เท่านั้น ด้านท่าเรือแจงมีการคืนเงินไปบางส่วน ให้นักท่องเที่ยว และไม่ได้เก็บแพง เป็นไปตามที่ทางพาณิชย์กำหนดราคาไว้
จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนผ่านเพจชื่อดัง ว่า เพื่อนชาวต่างชาติติดต่อมาว่าเก็บค่านั่งเรือ หัวละกว่า 3,000 บาท ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก โดยคนที่ไปด้วยมีแต่เด็กและผู้หญิง ด้วยความกลัวจึงต้องยอมจ่าย ทั้งที่รู้ว่าถูกโกง ซึ่งตอนนี้เพื่อนของตนอยากได้เงินคืนมาก นอกจากนี้ คนแถวนั้นบอกว่ามีหลายคนโดนแบบนี้เช่นกัน พูดอะไรไม่ได้ เพราะกลัวเหมือนกัน โดยตนยังได้โทร.ไปขอข้อมูลเพื่อเช็กราคากับเจ้าอื่น พบว่าแบบเหมาคิดเพียง 500-800 บาทเท่านั้น แต่เพื่อนตนนั้นโดนหัวละถึง 3,000 บาท ตนได้พยายามโทร.ไปแจ้งที่ อ.ดำเนินสะดวก แต่โทร.ไม่ติด จึงต้องร้องผ่านสื่อเพื่อให้ช่วยเหลือ
ล่าสุด วันนี้ (10 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าพูดคุยกับนายสุวิทย์ชาติ นวมเพ็ชร นายอำเภอดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ทราบว่าได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเมื่อวานนี้แล้ว ทางท่าเรือชี้แจงว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. มีนักท่องเที่ยว 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2 ไม่ได้มีเด็กมาด้วย โดยทางท่าเรือได้แจงแพกเกจให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงราคาในการนั่งเรือแต่ละเที่ยวว่าจะไปที่ไหนบ้าง ซึ่งราคาตั้งแต่ 2,000/1 ชั่วโมง 3,000/2 ชั่วโมง และ 5,000/3 ชั่วโมง ซึ่งลูกค้ารายนี้เลือกที่จะไปท่องเที่ยวทั้งหมด 7 แห่ง ต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง ตกลงกันในราคา 9,000 บาท
โดยไปที่เตาตาลบางเระ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก วัดปรก ปางช้างเพื่อไปชมจระเข้ซึ่งจะมีค่าเข้าชม โดยทางปางช้างคิดหัวละ 400 บาท ซึ่งทางท่าเรืออ้างว่าเป็นคนจ่ายให้ หลังจากนั้นไปวัดบางน้อย วัดบางกุ้ง และจบที่ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวได้ขึ้นแท็กซี่ที่ไปรอรับที่ตลาดน้ำอัมพวา และพากลับมาที่ท่าเรือพร้อมกับบอกว่าไม่พอใจเรื่องราคา จึงมีการพูดคุยกันและตกลงทางท่าเรืออ้างว่าได้คืนเงินสดให้ท่องเที่ยวไป 4,000 บาท และเรื่องก็จบ ซึ่งทางอำเภอได้เรียกคนขับเรือมาสอบถามพบว่าไม่ได้มีการขู่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
ซึ่งนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือไปก็สนุกสนานดีไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่บอกว่าพยายามแจ้งมาที่อำเภอแต่ติดต่อไม่ได้นั้น ต้องบอกว่าในช่วงกลางวันนั้นมีคนอยู่ตลอดแต่อาจจะมีสายไม่ว่างต้องขออภัยด้วย ซึ่งขณะนี้ได้แนะนำท่าเรือไปแล้วถึงเรื่องของการขายแพกเกจว่าต้องชัดเจน หรือให้เซ็นชื่อรับทราบว่าตกลงและพอใจในการซื้อแพกเกจนี้ ซึ่งทางท่าเรือบอกว่าจะรับไว้พิจารณา ส่วนเรื่องของเบอร์โทรศัพท์ในการรับเรื่องร้องเรียนนั้นต่อไปนี้จะนำเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของตนไปติดไว้ตามท่าเรือทุกท่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเวลาที่มีปัญหาด้วย
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับ น.ส.ณัฐฐา ทองเจิม และนายสุรชัย ทองอุดม เจ้าของท่าเรือแฟมิรี่ ซึ่งตั้งอยู่ตำบลตาหลวง อ.ดำเนินสะดวก และเป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนให้ข้อมูลว่า คนที่ร้องเรียนนั้นเป็นคนไทยที่ไม่ได้มาลงเรือเที่ยว แต่คนที่มาเที่ยวนั้นเป็นเพื่อนชาวต่างชาติ จึงอาจจะไม่ทราบว่านักท่องเที่ยวนั้นไปที่ใดบ้าง และใช้เวลากี่ชั่วโมงในการท่องเที่ยว ซึ่งก่อนจะมีการลงเรือนักท่องเที่ยวเป็นคนเลือกแพกเกจเองไม่ได้มีการบังคับและจ่ายเงิน โดยรูดเครดิตการ์ด จำนวน 9,000 บาท ซึ่งจะมีค่าภาษี 360 บาท ซึ่งการจ่ายเงิน 9,000 บาท นั้นลูกค้าไม่ต้องจ่ายอะไรอีกแล้วสามารถเข้าชมหรือท่องเที่ยวได้ตามที่มีการเลือกแพกเกจไว้
โดยทางท่าเรือจะเป็นคนจ่ายให้เองทั้งหมด และแต่ละครั้งหากนักท่องเที่ยวไปไม่ทันในรอบที่มีการแสดงโชว์ในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเลือกไว้ เรือจะต้องรอในรอบถัดไป ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่ 1 ชั่วโมงตามที่ตกลงกันไว้ แต่ทางท่าเรือไม่ได้คิดเพิ่ม และครั้งนี้ลูกค้าไปไกลถึงตลาดน้ำอัมพวาซึ่งอยู่คนละจังหวัด แต่ไม่รู้ว่าลูกค้าไปคุยกับใครทำให้พอกลับมาแล้วไม่พอใจ ทางท่าเรือเลยตัดปัญหาคืนเงินสดให้ไป 4,000 บาท แต่ไม่ทราบว่าคนที่มาร้องเรียนนั้นทราบหรือไม่ว่ามีการคืนเงินให้แล้วและระยะเวลานานกว่าที่มีในแพกเกจ
ซึ่งราคานี้คนไทยหรือต่างชาติคิดเหมือนกัน แต่คนไทยอาจจะมีลดหย่อนลงได้บ้าง และต้องเข้าใจด้วยว่าพื้นที่ท่าเรือของตนเองนั้นอยู่ด้านนอก ไม่ได้อยู่ในตลาดน้ำ ฉะนั้นราคาจึงไม่เหมือนในตลาดที่น้ำมีระยะทางใกล้ๆ คิดราคา 500-800 บาท และราคานี้ทางพาณิชย์เป็นคนกำหนดราคามาให้เหมือนกันทุกท่าที่อยู่รอบนอก แต่พอมีเรื่องร้องเรียนออกมาทำให้ตลาดน้ำเสียชื่อเสียงอย่างมาก ตนจึงอยากวิงวอนพวกนักเลงคีย์บอร์ดให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะนำไปลงเพราะมันสร้างความเสียหายมาก และยืนยันว่ามีการตกลงราคากับนักท่องเที่ยวแล้ว และเมื่อนักท่องเที่ยวไม่พอใจกับราคาหลังจากกลับจากไปเที่ยวมาแล้วยังคืนเงินให้ ไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด