ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชาโคราชกังวลกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดและนโยบายพรรคก้าวไกลยังไม่ชัดเจน หวังรัฐบาลใหม่ส่งเสริมออกกฎหมายมาควบคุมการปลูก การจำหน่ายให้เป็นไปตามจุดประสงค์เดิมคือใช้กัญชาทางการแพทย์ และส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจเดิมที่ได้ขออนุญาตดำเนินกิจการปลูกและจำหน่ายกัญชาไปแล้ว
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ศาลาอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านหนองตาคง ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคราชรักกัญช์ได้มีการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2566 โดยในที่ประชุมมีการแจ้งผลการดำเนินโครงการพัฒนาการปลูกกัญชา กัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ตามบันทึกข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และมีการสรุปผลการดำเนินการประจำปีของกลุ่ม
นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยแนวนโยบายเกี่ยวกับกัญชาในอนาคต หลังจากที่ทางพรรคก้าวไกลแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีแนวโน้มจะนำกัญชากลับเข้าไปเป็นสิ่งเสพติดซึ่งอาจจะส่งผลกระทบไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมต่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชา
ผศ.ดร.ธนากร เปลื้องกลาง อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในฐานะผู้วิจัยและดูแลกลุ่มเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนโคราชรักกัญช์ กล่าวว่า ส่วนตัวตนเห็นว่าถ้าหากจะนำกัญชากลับเข้าไปเป็นสิ่งเสพติดตนก็เห็นด้วย เพราะปัจจุบันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการควบคุมการปลูกหรือการจำหน่ายกัญชา ทำให้ปัจจุบันนี้มีกัญชาวางขายอยู่เต็มไปหมดซึ่งผิดกับวัตถุประสงค์ของการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ แต่ยังคงมีความกังวลในแนวทางนโยบายเกี่ยวกับกัญชาของพรรคก้าวไกลซึ่งหากนำกลับเข้าไปเป็นยาเสพติดแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
แต่อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลใหม่ที่นำโดยพรรคก้าวไกลจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ก็อยากให้ทางรัฐบาลใหม่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนหรือกลุ่มวิสาหกิจที่ลงทุนไปแล้วเป็นจำนวนมาก ไม่อยากให้ยกเลิกอย่างเด็ดขาดอยากให้ออกกฎหมายมาควบคุมการปลูก การจำหน่ายให้เป็นไปตามจุดประสงค์เดิมคือ การใช้กัญชาไปในทางการแพทย์ และส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจเดิมที่ได้มีการขออนุญาตในการดำเนินกิจการปลูกและจำหน่ายกัญชาไปแล้ว นอกจากนี้ตนอยากให้ทางรัฐบาลปรับเปลี่ยนรูปแบบการขออนุญาตในการปลูกกัญชาให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น