บุรีรัมย์ - ย่าน้องเตยเด็กกตัญญู จ.บุรีรัมย์ที่ได้เงินบริจาคช่วยเหลือ 5.9 ล้านเผยเครียด หลังโซเชียลฯ แห่ทวงถามเกือบเดือนยังไม่เห็นบ้านใหม่ ยันเงินบริจาคยังอยู่ครบทุกบาท ด้านนายก อบต.เผยเรื่องบ้านยังติดปัญหาที่ดินเป็นชื่อหลานสามี เตรียมหารืออังคารนี้ หากเจ้าของเซ็นยินยอมก็สร้างได้ แต่หากไม่ยอมต้องหาที่อื่น
วันนี้ (9 ก.ค.) จากกรณีที่เคยเป็นข่าวดังเรื่องราวของ “น้องเตย” วัย 4 ขวบหัวใจแกร่งที่คุณครูอุ้มไปเจอนั่งล้างจานอยู่ที่บ้านและได้นำเรื่องราวชีวิตของน้องมาโพสต์ลงโซเชียลฯ ว่าน้องเตยอาศัยอยู่กับคุณย่าตาบอด สองคนย่าหลานชีวิตสุดลำบาก จนต่อมาหน่วยงานต่างๆ รวมถึงคนไทยผู้ใจบุญจำนวนมากหลั่งไหลบริจาคช่วยเหลือเกือบ 6 ล้านบาท พลิกชีวิตสองย่าหลาน ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง นั้น
ล่าสุดเกิดประเด็นดรามาขึ้นอีกครั้ง เมื่อชาวโซเชียลฯ เข้าไปถามครูอุ้ม ครูอนุบาลของน้องเตยถึงบ้านหลังใหม่ที่เคยมีแพลนว่าจะสร้างให้กับสองย่าหลานหลังสังคมแห่บริจาคช่วยเหลือ ตอนนี้จะเข้าหน้าฝนแล้วเป็นห่วงสองย่าหลานที่ต้องอยู่ในบ้านเก่าทรุดโทรม เวลาฝนตกสาดเข้าที่นอนเปียก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน นางเสา จินดาศรี อายุ 68 ปี ย่าของ “น้องเตย” อีกครั้ง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกระแสดรามาเรื่องบ้านใหม่ที่ชาวเน็ตทวงถาม โดยย่าเสาบอกว่า เรื่องบ้านทางหน่วยงานราชการรับปากว่าจะดำเนินการสร้างให้ใหม่ แต่ตัวย่าเองไม่รู้ว่าติดขัดที่ขั้นตอนไหนก็ได้แค่รอส่วนราชการที่จะดำเนินการให้เท่านั้น แต่เพิ่งมารู้ว่าที่ดินที่ตนเองอาศัยปัจจุบันเป็นชื่อของหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของน้องสาวสามี ก็รู้สึกกังวลใจว่าจะสามารถสร้างบ้านใหม่ได้หรือไม่ สร้างแล้วอนาคตข้างหน้าจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะกลัวว่าหากตนเองเป็นอะไรไปก็เป็นห่วงน้องเตยจะมีปัญหาตามมาภายหลัง
ส่วนเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคมา 5.9 ล้านบาทตอนนี้ยังอยู่ครบทุกบาท เพราะบัญชีอยู่กับกรรมการ ไม่ได้อยู่กับตนเอง อย่างไรก็ตามหากเกิดปัญหาไม่สามารถสร้างบ้านในที่ดินดังกล่าวได้จริง ย่าก็พร้อมจะนำเงินบริจาคในส่วนของย่า 1.9 ล้านบาทไปซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านให้หลานอาศัยในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก แต่ก็ต้องพูดคุยกับทางราชการว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
ด้าน นายเอียน ทุรารัมย์ อายุ 68 ปี สามีของย่าเสา บอกว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่มรดก พ่อแม่ยกให้เป็นชื่อของตนเอง แต่ต่อมาหลานสาวซึ่งเป็นลูกของน้องสาว ได้มาขอให้ตนโอนโฉนดเป็นชื่อหลานสาวเพื่อไปกู้เงินธนาคารไปทำงานต่างประเทศ แต่หลานรับปากว่าจะโอนโฉนดคืนให้หลังจากกลับจากต่างประเทศอีกประมาณ 2 ปี แต่เบื้องต้นให้แม่มาเซ็นยินยอมให้ก่อนแล้ว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายแดง อนันรัมย์ นายก อบต.ตาเสา ให้ข้อมูลว่า กรณีการสร้างบ้านให้สองย่าหลานนั้น เบื้องต้น อบจ.ได้อนุมัติเงินมาแล้ว 80,000 บาท และ พมจ.ก็มีงบประมาณอีกราว 1 แสนบาท แต่เห็นว่าจะมีผู้ใจบุญบริจาคสมทบอีกเพื่อเป็นทุนในการสร้างบ้านให้สองย่าหลาน แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาเรื่องที่ดินเพราะไม่ใช่ชื่อของคุณย่า ซึ่งหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง พมจ., อำเภอ, อบต., กำนัน, ผญบ., ผอ.ร.ร. และคุณย่า จะมีการพูดคุยหารือกันอีกครั้งในวันอังคารที่ 11 ก.ค.นี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้สามารถสร้างบ้านใหม่ให้สองย่าหลานโดยไม่ติดขัดปัญหาอะไร