เชียงใหม่ - “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างไทยทูตสันถวไมตรีบินกลับจากศรีลังกาถึงประเทศไทยที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำคณะต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเคลื่อนย้ายต่อเข้ารับการรักษาตัวที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดลำปาง ขณะที่ตัวแทนสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยชูป้ายประณามศรีลังกา ใช้งานโหดและดูแลสวัสดิภาพช้างไทยสุดเลวร้าย จี้ทวงคืนช้างไทยอีก 2 เชือก
ช่วงบ่ายวันนี้ (2 ก.ค. 66) ที่อาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะร่วมกันติดตามและรอรับ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างไทย ที่ปัจจุบันอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งรัฐบาลไทยมอบให้รัฐบาลศรีลังกาเป็นทูตสันถวไมตรีเมื่อปี 2544 กลับมารักษาอาการเจ็บป่วยที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง
โดยการขนย้าย “พลายศักดิ์สุรินทร์” จากประเทศศรีลังกานั้น ช่วงเช้าวันนี้ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ที่อยู่ในกรงที่ทำขึ้นพิเศษได้ถูกนำขึ้นเครื่องบิน Ilyushin IL-76 (อิลยูชิน อิล-76) ที่ท่าอากาศยานโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เดินทางกลับสู่ประเทศไทย ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในช่วงเวลาประมาณ 14.03 น. ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 5 ชั่วโมง โดยตลอดการเดินทางมีทีมงานสัตวแพทย์และควาญช้างดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อเดินทางถึงแล้วทางคณะทำงานและทีมงานสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลช้างลำปางได้ตรวจสภาพ “พลายศักดิ์สุรินทร์” อย่างละเอียดเพื่อประเมินความพร้อมในทุกๆ ด้าน เบื้องต้นพบว่า “พลายศักดิ์สุรินทร์” อยู่ในสภาพที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จากนั้นจึงทำการเคลื่อนย้ายด้วยรถบรรทุกออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปยังสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนที่ "พลายศักดิ์สุรินทร์" จะเดินทางมาถึงนั้น พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจมารอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนายสัญญา ศุกระศร ที่ปรึกษากฎหมายสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย มาชูป้ายประท้วงศรีลังกาที่ปฏิบัติต่อช้างไทยอย่างเลวร้าย โดยระบุว่า ขอประณามศรีลังกา ที่ดูแลสวัสดิภาพและปฏิบัติกับ "พลายศักดิ์สุรินทร์" อย่างเลวร้าย จนล้มป่วยและสุขภาพย่ำแย่อย่างหนัก รวมทั้งต้องมีการส่งตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทย ทั้งนี้เรียกร้องว่าไม่ให้ไทยส่ง "พลายศักดิ์สุรินทร์" กลับไปศรีลังกาอีกหลังจากการรักษาตัว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ศรีลังกาส่งช้างไทยอีก 2 เชือกที่เป็นทูตสันถวไมตรีอยู่กลับคืนมาด้วย
ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจประเมินโดยทีมงานสัตวแพทย์พบว่า "พลายศักดิ์สุรินทร์" ไม่มีความผิดปกติใดๆ จากการเดินทางและอยู่ในสภาพที่พร้อม จึงทำการเคลื่อนย้ายไปที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เพื่อรับการรักษาต่อไป ซึ่งได้มีการจัดเตรียมพื้นที่เอาไว้แล้วสำหรับสังเกตอาการ "พลายศักดิ์สุรินทร์" พร้อมทั้งให้ปรับตัวและฟื้นฟูสภาพประมาณ 1 เดือน โดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าดูตลอดเวลา จากนั้นเมื่อครบกำหนดแล้วจะปล่อยให้ใช้ชีวิตร่วมกับช้างเชือกอื่นๆ ได้
สำหรับประวัติของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” นั้น รัฐบาลไทยส่งมอบให้ประเทศศรีลังกา เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรีเมื่อปี 2544 พร้อมกับ “พลายศรีณรงค์” ตามที่ประเทศศรีลังการ้องขอ เพื่อนำไปฝึกใช้ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของศรีลังกาที่มีการจัดอย่างต่อเนื่องมากว่า 270 ปี โดย “พลายศักดิ์สุรินทร์” นับเป็นช้างเชือกที่ 3 ที่ไทยส่งให้ศรีลังกาไปเป็นทูตสันถวไมตรี ต่อจาก “พลายประตูผา” ที่เป็นเชือกแรกเมื่อปี 2523
ทั้งนี้ “พลายศักดิ์สุรินทร์” เป็นช้างที่มีคชลักษณ์โดดเด่นตรงตามความต้องการของศรีลังกาเพื่อใช้ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งหลังจากถูกส่งไปอยู่ศรีลังกา รัฐบาลศรีลังกาได้โอนกรรมสิทธิ์ช้างเชือกนี้ให้กับ “วัดคันเดวิหาร” (Kande Vihara) เป็นผู้รับช่วงดูแลต่อ เพื่อให้ทำหน้าที่ในขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุในงานแห่พระธาตุประจำปีของศรีลังกา ซึ่งมีเฉลี่ย 30 ครั้งต่อปี โดยต่อมาปี 2565 มีการร้องเรียนและตรวจสอบพบว่า “พลายศักดิ์สุรินทร์” ถูกใช้งานอย่างหนักและมีสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ รวมทั้งจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน จึงนำไปสู่กระบวนการให้ความช่วยเหลือและนำตัวกลับมารักษาที่ประเทศไทยในที่สุด