อุบลราชธานี - แม่นักเรียน ม.1 โวยลูกปวดขาเพราะสอบตีลังกาจนต้องไปพบแพทย์ช่วยรักษา แต่สุดท้ายตรวจพบมีเกล็ดเลือดต่ำจนเกิดอาการช็อกเกร็งเสียชีวิต อยากให้โรงเรียนและหมอชี้แจงสาเหตุที่ลูกเสียชีวิต เพราะก่อนหน้ายังมีอาการดีๆ ไม่มีโรคประจำตัว
นางนันทพร สิงหธรรม อายุ 32 ปี ชาวบ้านสำโรง ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงลราภรณ์ สิงหธรรม นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 13 ปี ติดใจกรณีครูโรงเรียนในอำเภอพิบูลมังสาหาร ที่ลูกสาวเรียนอยู่ให้สอบตีลังกา เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ต่อมามีอาการปวดขาไปพบแพทย์โรงพยาบาลประจำอำเภอในวันถัดมา เมื่อไปถึงโรงพยาบาลพบข้อเท้าลูกเริ่มมีอาการบวม เล็บเท้าบริเวณนิ้วโป้งมีอาการช้ำเหมือนจ้ำเลือด พร้อมมีอาการหายใจเร็ว เมื่อนำเลือดไปตรวจพบเกล็ดเลือดต่ำ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก หรือโรคฉี่หนู โรงพยาบาลประจำอำเภอตาลสุมจึงส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาลในจังหวัด ระหว่างนั้นลูกสาวเริ่มมีเลือดไหลออกมาทางจมูก
เมื่อถึงโรงพยาบาลในจังหวัดลูกสาวมีเลือดออกมาทางจมูกจำนวนมาก และบ่นปวดขา พร้อมร้องบอกแม่ไม่ไหวแล้ว หมอจึงเอายาแก้ปวดมาฉีดให้ ระหว่างฉีดนั้น น้องมีอาการมือเท้าเกร็ง และช็อกหมดสติ หมอต้องใช้เครื่องปั๊มหัวใจลูกถึง 5 ครั้ง แต่ลูกก็เสียชีวิต ทำให้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะปกติลูกไม่มีโรคประจำตัว คนในครอบครัวไม่มีใครเป็นโรคเลือด หรือเป็นโรคฉี่หนูมาก่อน แต่ใบมรณบัตรลงความเห็นเสียชีวิตเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด
จึงต้องการทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าลูกเสียชีวิตจากโรคอะไร ส่วนที่ตอนแรกไม่ยอมให้หมอผ่าชันสูตรศพเพราะยายที่เลี้ยงดูลูกสาวขอร้องไม่อยากให้หมอผ่าศพกลัวหลานสาวจะเจ็บปวดมากขึ้น หากไปเกิดก็กลัวจะมีบาดแผลติดตัวไปด้วย ตอนนี้ที่สงสัยก็มีสองส่วน คือ เสียชีวิตจากที่ตีลังกาที่โรงเรียน หรือเสียชีวิตจากการรักษาไม่ทันท่วงทีของหมอหรือเปล่า เพราะตอนลูกร้องเจ็บปวด หมอก็ไม่ได้มาดูทันที ปล่อยเวลาไปนานพอสมควร
ด้านนางสาวอารยา วรวิบูล ครูที่ปรึกษาโรงเรียนในอำเภอพิบูลมังสาหาร ที่ผู้ตายเรียนอยู่เล่าว่า วันดังกล่าวเป็นการเรียนวิชายืดหยุ่น มีการให้ซ้อมตีลังกา ซึ่งเด็กหญิงลราภรณ์ทำได้ดีจนสามารถทำคะแนนได้มากกว่าเพื่อนหลายคนในห้องเรียนที่ทำไม่เป็น ไม่ได้มีการลงโทษน้อง เพราะทำได้ดีอยู่แล้ว ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ในโรงเรียนที่ไปมีโอกาสให้ติดเชื้อทั้งโรคฉี่หนู และไข้เลือดออกก็ไม่มี เพราะโรงเรียนมีต้นไม้อยู่ไม่มาก และไม่มีแหล่งน้ำที่จะให้ไปลุยน้ำได้เลย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดอุบลราชธานีที่ให้การรักษาเด็กหญิงลราภรณ์เป็นที่สุดท้ายก่อนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผู้บริหารมีการหารือและสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานต่อนายแพทย์ สสจ. การให้ข้อมูลหรือข่าวใดๆ นายแพทย์ สสจ.จะเป็นผู้ให้ข่าวเอง