บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ถาวร
จ.บุรีรัมย์ เร่งแกะรอยวงจรปิดล่าตัวคนร้ายปลอมเป็นพระทำทีตีสนิทบีบนวด
และเทน้ำผึ้งให้เจ้าอาวาสอายุ 80 ปีฉันมีอาการสะลึมสะลือ ก่อนเข้าไปขโมยเงินในกุฏิ 1.8 แสนหลบหนี
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถาวร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เร่งแกะรอยวงจรปิดตามถนนและสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามคนร้าย เป็นชายรูปร่างท้วม ผิวคล้ำ อายุประมาณ 50 ปี ที่แต่งกายปลอมเป็นพระทำทีตีสนิททั้งปรนนิบัติบีบนวด และชงน้ำผึ้งให้ พระอาจารย์มงคล จัตสันโณ อายุ 80 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านบุตาพวง ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ ฉันก่อนรู้สึกเคลิ้มแล้วเข้าไปก่อเหตุลักขโมยเงินที่หลวงพ่อเก็บไว้ในกุฏิประมาณ 180,000 บาทแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงบ่ายของวันที่ 27 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา
สอบถามพระอาจารย์มงคล เจ้าอาวาสวัดบ้านบุตาพวง เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างท้วมแต่งกายเหมือนพระสงฆ์ เข้ามาที่กุฏิของอาตมา แล้วบอกว่ามาจากวัดป่าโนนดินแดง ก่อนจะมาที่นี่ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอนางรอง และจะเดินทางกลับวัด จึงแวะเข้ามากราบหลวงพ่อ ซึ่งนอกจากจะพูดคุยตีสนิทแล้ว ชายที่แต่งกายคล้ายพระยังเข้ามาบีบนวดและเทน้ำผึ้งให้หลวงพ่อฉันด้วย ซึ่งหลังจากฉันน้ำผึ้งก็มีอาการสะลึมสะลือ เบลอๆ
จากนั้นเขาก็ขอทำความสะอาดบริเวณรอบๆ กุฏิให้และขอไปตรวจเช็กแอร์ในกุฏิให้ ซึ่งหลวงพ่อคิดว่าเขาเป็นพระจริงจึงไม่ได้เอะใจอะไร
กระทั่งชายคนดังกล่าวกลับออกไปประมาณ 16.30 น. พบว่าเงินที่เก็บไว้ในกุฏิกว่า 1 แสนบาทหายไป ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่โยมถวายหลวงพ่อเก็บสะสมไว้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ก็เอาไว้ใช้ช่วงบั้นปลายเพราะหลวงพ่อชรามากแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาขโมย ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
ด้านพระนิคม วิชชาทะโร พระลูกวัด ซึ่งทำหน้าที่ดูแลหลวงพ่อ เล่าให้ฟังว่า คนร้ายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ขับรถเก๋งเข้ามาจอดในวัด แล้วก็มาเดินดูรอบๆ วัด แล้วไปถามอาตมาว่าหลวงพ่ออยู่ไหม อาตมาก็ตอบว่าท่านกำลังจำวัดอยู่ อาตมาก็ถามว่ามาจากไหนเขาก็ตอบว่าไปกราบหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอนางรองมา ซึ่งเขาบอกว่ามาจากวัดป่าโนนดินแดง ก็คิดว่าเป็นพระเหมือนกันจึงไม่ได้คิดอะไร
“ส่วนตัวไม่เคยเห็นพระรูปนี้มาก่อน แต่หลังเกิดเหตุจึงโทร.ไปสอบถามหลวงตาเจ้าคณะอำเภอนางรองว่ามีพระลักษณะดังกล่าวเข้าไปจริงหรือไม่ หลวงตาก็บอกว่าไม่มี จึงเชื่อว่าเป็นคนร้ายแน่นอน จึงอยากฝากเตือนวัดอื่นๆ โดยเฉพาะที่มีพระอายุมากให้ระมัดระวังด้วย เป็นไปได้ก็อยากให้ติดกล้องวงจรปิด”
ด้านนางสาวพรกมล มโนรัมย์ อายุ 27 ปี หลานสาวหลวงพ่อ บอกว่า หลังทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ เพราะท่านก็อายุมากแล้ว ที่สำคัญหลวงพ่อป่วยเป็นเบาหวานและความดันด้วย ก็ไม่คิดว่าจะมีใครมาก่อเหตุแบบนี้ เงินที่ถูกขโมยไปคิดว่าท่านน่าจะเก็บไว้รักษาตัวด้วย ส่วนที่บอกว่าคนร้ายเทน้ำผึ้งให้ฉันแล้วเกิดอาการสะลึมสะลือนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาใส่ยาอะไรหรือไม่ หลังเกิดเหตุขึ้นก็อยากให้ทางวัดติดกล้องวงจรปิด และช่วยกันสอดส่องเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้อีก
ขณะที่ พ.ต.ท.จักรกริช รังพงษ์ สารวัตรใหญ่หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรถาวร ให้ข้อมูลว่า ล่าสุดรู้เบาะแสป้ายทะเบียนรถคนร้ายแล้ว ก็จะทำการตรวจสอบว่าคนร้ายเป็นพระจริงหรือพระปลอม ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล และภาพวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี