ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น จัดรณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ ปี 2566 พบประชาชนยังเสี่ยงขาดสารไอโอดีนสูง เผยใช้ตลาดต้นตาลที่มีร้านอาหารมากกว่า 200 ร้าน รณรงค์ให้ทุกร้านอาหารปรุงรสด้วยเกลือเสริมไอโอดีนทุกเมนู เน้นกินเค็มพอดีแต่ต้องมีไอโอดีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดต้นตาล อำเภอเมืองขอนแก่น นางจารินี ยศปัญญา รองผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ด้านวิชาการ เป็นประธานเปิดรณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่ร้านอาหารที่ใช้เกลือและเพิ่มเติมรสเสริมไอโอดีนประกอบอาหารจำหน่ายให้แก่ประชาชนที่มารับบริการ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคขาดสารอาหารในเขตสุขภาพที่ 7 โดยทุกร้านต้องปรุงภายใต้การกินเค็มพอดีแต่ต้องมีไอโอดีน
มีนางชัญญานุช ปานนิล นักโภชนาการชำนาญการพิเศษ การใช้เกลือและเครื่องปรุงเสริมไอโอดีน, นายยุทธยา สุภาปัญญากุล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ การใช้ยาเม็ดเสริมไอโอดีน เหล็กและโฟลิก, น.ส.วนิดา สิงห์บุราณ นักประชาสัมพันธ์ เป็นวิทยากร มีหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพ่อค้า แม่ค้า ร่วมงาน
นางจารินี ยศปัญญา รองผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กล่าวว่าวัตถุประสงค์การจัดงานวันนี้เพื่อสร้างความรู้การป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนให้แก่ประชาชนทุกวัย โรคขาดสารไอโอดีนยังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพบภาวะขาดสารไอโอดีนทุกกลุ่มวัย ถึงแม้ว่าสาธารณสุขจะดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหานี้มายาวนานก็ตาม โดยภาวะขาดสารไอโอดีนส่งผลกระทบต่อทุกคนเป็นวงจรต่อเนื่อง หากเกิดการขาดไอโอดีนในหญิงตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกที่อยู่ในท้องแม่ขาดด้วย
การขาดไอโอดีนตั้งแต่เป็นเด็กทารก จะทำให้สมองเจริญเติบโตไม่เต็มที่ พัฒนาการทางสมองช้า ส่งผลถึงความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก ความฉลาดต่ำลง ในเด็กที่ขาดอย่างรุนแรง อาจส่งผลร้ายจนเกิดความพิการทางสติปัญญาได้ รวมทั้งส่งผลต่อเนื่องถึงคุณภาพชีวิตในช่วงวัยถัดๆไปอีกด้วย อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมของประเทศชาติ
การจัดงานรณรงค์วันนี้ ถือเป็นการจุดประกายความร่วมมือแก้ปัญหาในทุกภาคส่วน โดยเริ่มตั้งแต่ตัวบุคคล ครัวเรือน ร้านอาหาร ซึ่งวิธีแก้ปัญหา ขอเพียงทุกคนปฏิบัติให้เป็นกิจวัตร คือ 1.กินอาหารที่มีไอโอดีน (กลุ่มอาหารทะเล) 2.เน้นใช้เกลือและเครื่องปรุงเสริมไฮโอดีนทุกครั้งที่ปรุงอาหาร โดยกินเค็มพอดี แต่ต้องมีไอโอดีน หากทำได้ 2 ข้อนี้จะได้รับไอโอดีนเพียงพอ
การรวมพลังสร้างตลาดที่ผลิตอาหารที่มีไอโอดีนทุกร้านในตลาดตันตาลนี้ เพื่อให้ประชาชนที่มาใช้บริการได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ เมื่อมารับประทานอาหารนอกบ้าน ส่วนที่สำคัญคือ หญิงตั้งครรภ์ ต้องได้รับและกินยาเม็ดเสริมไอโอดีน เหล็กและโฟลิก เพิ่มวันละ 1 เม็ด จะทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับเพียงพอเช่นกัน
ด้านนางชัญญานุช ปานนิล หัวหน้ากลุ่มวัยทำงาน นักโภชนาการชำนาญการพิเศษ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กล่าวว่าภาวะขาดสารไอโอดีนเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลกและประเทศไทย ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่มวัย ปัจจุบันสถานการณ์การขาดสารไอโอดีนในเขตสุขภาพที่ 7 ยังคงพบปัญหาในทุกพื้นที่ ทั้งในเขตชนบทและในเขตเมือง
มีข้อมูลที่สำคัญคือ 1. การใช้เกลือและเครื่องปรุงเสริมไอโอดีนในครัวเรือน ยังไม่ครอบคลุมทุกครัวเรือน และยังพบมีการใช้เกลือที่ไม่มีสารไฮโอดีนอีกด้วย ส่วนคุณภาพเกลือเสริมไฮโอดีน 20-40 ppm พบร้อยละ 89.8 ดำเนินงานชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีน ร้อยละ 35.7 และค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะหญิงตั้งครรภ์เท่ากับ 129.0 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งหมายความว่าประชาชนในเขตสุขภาพที่ 7 ยังพบความเสี่ยงต่อการขาดสารไอโอดีน
วิถีชีวิตปัจจุบันคนไทยมากกว่าร้อยละ 30 มีการรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ ซึ่งเท่ากับครัวหลักของคนไทยขณะนี้อยู่ที่ร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านแผงลอยและร้านอาหารทั่วไป ซึ่งในกลุ่มร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ยังพบว่าบางแห่งไม่ใช้เกลือและเครื่องปรุงรสที่มีไอโอดีน
ในปี 2566 นี้ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น จึงได้จัดรณรงค์สร้างความตระหนักในการใช้เกลือและเครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีนในกลุ่มร้านอาหารในเขตสุขภาพที่ 7 ซึ่งตลาดต้นตาลเป็นสถานที่จำหน่ายอาหารที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น มีร้านจำหน่ายอาหารมากกว่า 200 ร้าน ที่ประชาชนทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด มากกว่าวันละ 5,000 คน มาใช้บริการ จึงมีความจำเป็นที่ทุกร้านในตลาดต้นตาลต้องใช้เกลือและเครื่องปรุงรสเสริมไอโอดีน จะทำให้ประชาชนผู้มารับบริการได้รับไอโอดีนจากอาหารทุกเมนู