ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มประมงพื้นบ้านสัตหีบโวยกรมเจ้าท่า ไม่ฟังคำสั่งศาลปกครอง หลังพิจารณาให้ระงับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมทะเลออกไปก่อน 90 วัน ระบุอาศัยพื้นที่อยู่ทำกินนานกว่า 50 ปี หากรื้อบ้านไม่รู้จะไปอยู่ไหน วันนี้แค่ขอเห็นใจให้เช่าก็ยินยอมทำ
จากกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กว่า 50 คนได้รวมตัวกันคัดค้านคำสั่งกรมเจ้าท่า ที่มอบหมายให้ผู้รับจ้างนำอุปกรณ์พร้อมแรงงานเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มประมงท้องถิ่นริมทะเล จำนวน 9 หลัง ที่ได้จับจองพื้นที่อาศัยทำกินมานานกว่า 50 ปี
โดยมี นายเรืองฤทธิ์ มณีพันธุ์ ปลัดเทศบาลตำบาลนาจอมเทียน และผู้นำท้องถิ่นที่ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการรื้อถอนออกไปก่อนเป็นเวลา 90 วัน แต่สุดท้ายกลับพบว่ามีทีมงานเข้ารื้อถอนที่พักของชาวบ้านทั้งที่ยังไม่ถึงระยะเวลาตามที่กำหนด ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการกลั่นแกล้งชาวบ้านนั้น
วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งพบ นายประเสริฐ คลองยุทธ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เดือดร้อน บอกว่าบ้านของตนและชาวประมงท้องถิ่นอีกหลายหลังที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณริมทะเล ได้ประกอบอาชีพประมงท้องถิ่นมานานกว่า 50 ปี เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการขุดคลองจากด้านบนลงสู่ทะเลจึงทำให้กลุ่มชาวประมงใช้พื้นที่ดังกล่าวนำเรือประมงเข้ามาจอดทอดสมอ
“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะหากทำการรื้อถอนและไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่แล้วไม่รู้ว่าไปอาศัยอยู่ที่ใด ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวบ้านได้เคยทำหนังสือไปยังกรมเจ้าท่าเพื่อขอความเห็นใจแล้ว แต่หนังสือถูกตีโดยอ้างว่าชาวบ้านได้เข้ามาบุกรุกพื้นที่จนนำไปสู่การยื่นเรื่องไปศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งระงับการรื้อถอนเป็นเวลา 90 วัน แต่สุดท้ายยังไม่ถึง 30 วัน กรมเจ้าท่านำผู้รับเหมาจะเข้ามาทำการรื้อถอนแล้ว”
นายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ชาวบ้านต้องการร้องขอจากกรมเจ้าท่า คือการเปิดให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สามารถเช่าที่ดินของรัฐเพื่ออยู่อาศัยหรือทำกินต่อไป เพราะชาวประมงท้องถิ่นเป็นกลุ่มคนหาเช้ากินค่ำจึงไม่มีเงินที่จะไปซื้อที่ดิน หรือปลูกบ้านใหม่
ด้าน นายกสิพนธ์ บริพันธ์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กรมเจ้าท่า เผยว่า วันนี้ทางหน่วยงานจะเริ่มโครงการรื้อถอนสิ่งรุกล้ำลำน้ำ หลังได้รับคำสั่งพิจารณาเห็นชอบจากศาลปกครองแล้ว
“ส่วนกรณีที่ชาวบ้านได้ทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งกรมเจ้าท่าไปนั้น ขณะนี้ศาลได้ยกคำร้องอุทธรณ์ไปแล้ว จึงทำให้กรมเจ้าท่ามีสิทธิตามกฎหมายในการดำเนินการรื้อถอนอย่างถูกต้อง ส่วนการรื้อถอนจะยืดเยื้อหรือมีปัญหาตามมาอย่างไรนั้นคงต้องรอเวลาไปก่อนเพราะชาวบ้านระบุว่าได้ยื่นหนังสือไปศาลปกครองเพื่อขอให้คุ้มครองเป็นเวลา 90 วัน” วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กรมเจ้าท่า กล่าว