xs
xsm
sm
md
lg

ร้านคอมพ์แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่แจ้งจับสาวธุรการป่าไม้ทำโครงการจัดซื้อทิพย์สูญหลายล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - ผู้ประกอบการฯ โร่แจ้งความดำเนินคดีพนักงานสาวป่าไม้ฯ ตั้งแท่นทำโครงการทิพย์จัดซื้อปลอม ตระเวนสั่งคอมพ์-อุปกรณ์สำนักงานตามร้านค้าทั้งแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ หลักแสน-ล้านต่อราย สุดท้ายไม่มีการเบิกจ่ายชำระ เจ้าตัวอ้างกู้นอกระบบมาปล่อยต่อใน สนง.จนหมุนไม่ทัน


บรรดาผู้ประกอบการจำหน่ายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน หลายรายในแม่ฮ่องสอนได้รวมตัวกันร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ก่อนหน้านี้มีพนักงานสาวสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จ.แม่ฮ่องสอน ได้ติดต่อและทำเรื่องจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ กับร้านค้าหลายแห่ง ทั้งที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ขุนยวม และที่จังหวัดเชียงใหม่

กระทั่งได้มีการส่งมอบสินค้าด้านไอที ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เเท็บเล็ตและกล้องถ่ายรูป กันที่ด้านนอกของสำนักงานฯ บ้านพักหรือมีการมารับเองถึงที่ร้าน จากนั้นก็มีการตั้งเรื่องเพื่อทำการเบิกจ่ายตามขั้นตอนปกติ

แต่เรื่องแดงความลับแตก เมื่อแต่ละร้านได้ทวงถามหนี้ค้างชำระที่เกินกำหนด ซึ่งหญิงสาวรายนี้กลับบ่ายเบี่ยงหรือขอเลื่อนระยะเวลาการชำระออกไป โดยให้เหตุผลต่างๆ นานา เมื่อบางรายทวงถามไปที่สำนักงานฯ ก็พบว่าไม่มีโครงการจัดซื้อดังกล่าวแต่อย่างใด

และจากการสอบถามผู้ประกอบการในแวดวงเดียวกันก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีการจัดซื้อในลักษณะเดียวกันไปอีกหลายร้าน มูลค่าการสั่งซื้อในวงเงินตั้งแต่รายละ 300,000 บาท จนถึง 1,400,000 บาท และยังไม่มีร้านค้ารายใดได้รับการชำระหนี้เช่นเดียวกัน

ต่อมาผู้ประกอบการทั้งหมดได้เดินทางไปขอเข้าพบกับ นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 66 ที่ผ่านมา เพื่อขอทราบความคืบหน้าของทางหน่วยงานในการดำเนินการกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยการเข้าพบในครั้งนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง และหลังการเข้าพบของผู้ประกอบการที่ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง นายเกษมก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ แก่สื่อมวลชน โดยแจ้งผ่านเลขาฯ ว่ายังไม่ได้รายงานไปยังอธิบดีและไม่สะดวกให้ข้อมูลใดๆ


ล่าสุดวานนี้ (26 มิ.ย. 66) ผู้ประกอบการร้านคอมพ์-อุปกรณ์สำนักงาน ทั้งหมด 8 รายก็ได้ทยอยเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.A (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ส่วนอำนวยการ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ปัจจุบันได้โยกย้ายมาอยู่ในส่วนงานป้องกันและรักษาป่า ที่เป็นคนเดินเรื่องตั้งแต่ติดต่อร้านค้า สั่งซื้อและตรวจรับสินค้าเองทุกขั้นตอนแบบเบ็ดเสร็จ

หนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายเปิดเผยว่า ตอนนี้เราพบแล้วว่าเกิดความเสียหายแก่ร้านค้าและผู้ประกอบการแล้ว เพราะมีการสั่งซื้อสินค้าทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กและสินค้าไอทีมากมาย แต่ยังไม่ได้รับเงิน มูลค่าความเสียหายตั้งแต่เลข 6 หลักขึ้นไปทั้งสิ้น จึงต้องมาร้องเรียนและเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.A ผู้เสียหาย

ซึ่งทางเราต้องการทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้เกิดจากอะไร เกิดจากคนหรือเกิดจากระบบของทางราชการของสำนักงาน เพราะเป็นปกติธรรมดาของระบบราชการที่ไม่สามารถจ่ายเป็นเงินสดได้ และก่อนหน้านี้ก็มีการติดต่อซื้อขายกันมาตลอดจนเกิดความไว้ใจ จนกระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้นในครั้งนี้ พวกเราคิดว่าน่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากวงเงินมากขนาดนี้ไม่น่าจะทำคนเดียวได้ ซึ่งจะเห็นมีการวางแผนมาก่อน และตระเวนสั่งซื้อไปเรื่อยๆ

“ที่มั่นใจส่งของให้เพราะมีลายเซ็นของผู้บริหารอยู่ในเอกสารด้วย และที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบปัญหาจนกระทั่งมาเจอในปีนี้ เมื่อมีการพูดคุยกันในกลุ่มผู้ประกอบการก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน กว่าจะรู้ก็คือโดนโกงไปแล้ว ณ ตอนนี้มีผู้เสียหาย 8 ราย มูลค่าความเสียหายราว 6 ล้านบาท ตอนนี้ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ประกอบการเพียงสถานเดียวเท่านั้น”

ส่วนการเข้าพบผู้บริหารของสำนักงานดังกล่าว ก็พบว่าเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ก็สอบถามที่ไปที่มาของเหตุที่เกิดขึ้น จากนี้ก็ต้องให้เขาไปดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของเขาตามระบบต่อไป แต่จากการเจรจากับผู้ก่อเหตุเขาก็ยอมรับไปในส่วนที่เขาทำ แต่การชดใช้หรือจ่ายหนี้นั้น น.ส.A ก็ไม่เคยให้คำตอบอะไรเลย แต่โดยส่วนตัวแล้วผู้ประกอบการเองก็ยังหวังว่าจะได้เงินคืนบ้าง

“มั่นใจว่าเรื่องนี้จะต้องมีการทำเป็นขบวนการ คนเดียวทำไม่ได้แน่นอน และทุกครั้งที่แต่ละร้านจัดส่งของก็จะส่งให้สำนักงานเท่านั้น ส่วนตัวจะไม่ให้กันอยู่แล้ว เราให้ของเพราะมีเอกสารจากสำนักงานฯ แต่ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการเองก็พลาดที่ไปส่งของให้โดยยังไม่เห็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ แต่ทุกครั้งก็จะส่งภายในพื้นที่ของสำนักงานเขาตลอด ซึ่งก็มี น.ส.A เป็นผู้รับสินค้าเองทุกครั้ง”


ด้าน น.ส.A (นามสมมติ) ที่ยอมเปิดปากถึงกรณีดังกล่าวนี้ในเวลาต่อมา ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มาจากปัญหาหนี้นอกระบบที่ตนเองไปกู้มา ยอดหลายล้านเหมือนกัน แรกๆ ก็นำเอามาปล่อยให้กู้แก่คนในสำนักงานก็มีรายได้พอสมควร กระทั่งมาเกิดปัญหาเพราะหมุนเงินไม่ทันจนกลายเป็นหนี้สะสมจำนวนมาก แต่ละวันจะต้องหาเงินมาใช้หนี้เป็นยอดหลักแสนต่อวัน จนต้องมาก่อเหตุขึ้นในครั้งนี้เพื่อหาทางนำเงินมาชำระเจ้าหนี้นอกระบบดังกล่าว

ส่วนที่มีคนสงสัยว่าวงเงินความเสียหายสูงมากไม่น่าจะกระทำการเพียงคนเดียวได้นั้น เรื่องนี้ตนเองขอไม่ตอบ จากนี้ไปก็พยายามหาทางแก้ไขปัญหาหรือตกลงกับผู้เสียหายอีกที หรือให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะปัญหาหนี้นอกระบบบีบคั้นให้ต้องทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นตนก็ต้องเจอปัญหาถูกตามทวงหนี้โหด ที่บางครั้งก็ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย มาถึงสำนักงานหรือที่ทำงานทำให้อับอาย บางครั้งก็ประจานลงเฟซบุ๊ก หนี้ทุกวันนี้ก็ยังไม่ยอมลดลงเพราะเป็นหนี้แบบรายวัน

สำหรับของที่ได้มานั้นก็ส่งออกขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เคยนำออกขายในไทย โดยจะทำการซื้อขายผ่านเฟซบุ๊กและส่งสินค้าผ่านทางขนส่งเอกชนทั่วไปได้ตามปกติและสามารถยืนยันถึงแหล่งที่นำของส่งขายได้

“ณ ขณะนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป คงต้องให้ว่ากันไปตามกฎหมายก่อน แต่ก็อยากจะบอกกับคนที่กำลังจะไปกู้หนี้นอกระบบว่ามันอันตรายมาก อาจทำให้ชีวิตพังได้เลย อยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าไปกู้นอกระบบอีกเลย แรกๆ ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่มีคนบอกให้ไปกู้มาให้เพื่อช่วยเหลือและมีผลทางด้านการงานด้วยก็เลยดำเนินการให้ ทั้งของตนและคนที่บอกให้ไปกู้ก็เลยมีหนี้ทบต้นทบดอกทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะกู้มา 10,000 ต้องจ่ายวันละ 1,000 บาท ซึ่งวงจรของหนี้นอกระบบในพื้นที่มีอยู่เกลื่อนเมือง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ติดการพนัน มีเพียงการซื้อหวยแต่ละงวดเท่านั้นเอง”
กำลังโหลดความคิดเห็น