เลย- หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง พร้อมด้วยปลัดปลัดอำเภอด่านซ้ายนำกำลัง บุกค้นกุฎิพระกลางป่า พบซากสัตว์ทั้งหัวกระทิง เขากวาง กระดูกช้างและซากอื่นจำนวนมาก เผยเจ้าของกุฏิเป็นถึงเจ้าอาวาส สะสมซากสัตว์ป่าหายาก เพื่อนำไปทำของขลังขายให้ชาวบ้าน
วันนี้(23 มิ.ย.)นายวันชัย สิมมาเศียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง (อำเภอภูเรือ) พร้อมด้วย นายพร้อมพงษ์ โกษาผล ปลัดอำเภอด่านซ้าย อส.ผู้ใหญ่บ้าน กำนันในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกงาม อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้นำกำลังออกค้นกุฎิสำนักสงฆ์ห้วงบ้าง พบซากสัตว์ป่า ทั้งหัวกระทิง กระดูกสัตว์ป่าคุ้มครองต่างๆ จำนวนมาก หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีพระในสำนักสงฆ์ สะสมซากสัตว์ป่าหายาก เพื่อนำไปทำของขลังขายให้ชาวบ้าน
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าค้นกุฎิเจ้าอาวาส ทราบชื่อพระอาจารย์ไอซ์ อายุ ประมาณ 47-48 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นไม่อยู่ พระลูกวัดอ้างว่าเจ้าอาวาสออกธุดงค์ จากการตรวจค้นพบ ซากสัตว์ป่าคุมครองจำนวนมาก ทั้งหัวกระทิง กระดูกช้าง หนังช้าง กะโหลกช้าง เขากวาง เขาควายป่า รวมทั้งน้ำมันเลียงผา ตะกรุดทำมาจากกระดูกสัตว์ รวมทั้งของสายมูต่างๆ และยังออกค้นอีกกุฎิของพระลูกวัด เป็นกุฎิของพระพิชิต สุขกาโม ไม่อยู่เช่นกันอ้างออกธุดงค์กับเจ้าอาวาส พบภายในกุฎิพบซากสัตว์กองอยู่กุฎิจำนวนมากเช่นกัน และยังพบมีห้องเก็บของเต็มไปด้วยซากสัตว์ป่าคุ้มครอง
นายวันชัย สิมมาเศียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง (อำเภอภูเรือ) เปิดเผยว่า มีผู้ร้องเรียนไปที่สายด่วน 1362 กรมอุทยาน จากนั้น ทางกรมอุทยาน ได้แจ้งมายัง หน่วยงานอนุรักษ์ ที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งทางเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูหลวง ได้สนธิกำลังจากหน่วยงานต่างๆมาร่วมกัน รวมถึงผู้นำหมู่บ้าน ซึ่งการตรวจค้นวันนี้ เป็นไปด้วยความเปิดเผย โดยมีการขออนุญาตพระอาจารย์ ที่ดูแลวัด และร่วมตรวจค้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ พนักงานสอบสวน สภ.โคกงาม หน่วยป้องกัน จากกรมป่าไม้ โคกงาม
จากการสอบสวนพระลูกวัด เผยว่า ในสำนักสงฆ์มีพระทั้งหมด 5 องค์ วันนี้เจ้าอาวาสไม่อยู่ออกธุดงค์ในป่ากับพระอีกองค์ ส่วนซากสัตว์ป่าที่ค้นพบ เป็นของเจ้าอาวาส และลูกพระที่ไปด้วยกัน โดยไม่ทราบว่าเจ้าอาวาสไปมายังไง ส่วนใหญ่จะเอามาปลุกเสกทำเครื่องรางของขลังให้กับผู้ที่สนใจ และแจกจ่ายลูกศิษย์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำของกลางทั้งหมด และนำไปบันทึกที่เขตรักษาพันธุ์ภูหลวง และนำไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกงาม ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางไว้ทั้งหมด โดยจะนำไปตรวจสอบที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เพื่อทำบันทึกรายการ และส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรโคกงาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจ้ำคุกไม่เกิน 4 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจ้าทั้งปรับ และจะได้เร่งติดตามตัวเจ้าอาวาสมาสอบสวนและขยายผลถึงแหล่งที่มาต่อไป