xs
xsm
sm
md
lg

อดีตหนุ่ม รง.สุดงง! ป่วยลาออกจากงานได้ 2 ปี รู้อีกทีมีเงินโอนเข้าบัญชีอื้อและถูกสั่งอายัดคดีฉ้อโกง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุรินทร์ - อดีตหนุ่มโรงงานมีอาการป่วยทางจิตเวชจึงลาออกมารักษาตัวได้ 2 ปี จำได้มีเงินติดบัญชีอยู่ 3 พันบาทไปถอนเงินที่ธนาคารแต่บัญชีถูกอายัดไว้จาก สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร กล่าวหานำบัญชีไปหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่น พบมีเงินปริศนาโอนเข้าอื้อและมีผู้เสียหายจำนวนมาก เจ้าตัวโร่แสดงความบริสุทธิ์ลงบันทึกประจำวัน สภ.ท่าตูม สุรินทร์

วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉลอง ใจกล้า อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้พา นายสนธยา เสพสุข อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 4 ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นน้องชาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประเสริฐ จันทร์แดง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าตูม เพื่อแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน


นายสนธยาเล่าว่า ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทางบริษัทได้พาตน ไปเปิดบัญชีธนาคารไว้เพื่อสะดวกต่อการโอนจ่ายค่าจ้าง โดยเปิดเป็นบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขากบินทร์บุรี เป็นบัญชีเลขที่ 2022714087 ซึ่งนายสนธยาได้รับเงินค่าจ้างจากบริษัทผ่านบัญชีนี้เรื่อยมา

กระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมามีอาการป่วยทางประสาท จึงได้ลาออกมารักษาอาการป่วยอยู่ที่ภูมิลำเนาบ้านเกิดได้ระยะหนึ่ง ตนจำได้ว่าในบัญชีธนาคารของตนนั้นน่าจะมีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 3,000 บาทเศษ จึงได้ชักชวน นายฉลอง ใจกล้า (พี่ชาย) ให้พาไปถอนเงินจำนวนดังกล่าวที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ แต่เมื่อไปถึงธนาคาร เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าบัญชีธนาคารของตน ได้ถูกอายัดไว้จากทางสถานีตำรวจภูธรขมิ้น จ.สกลนคร โดยมี ร.ต.อ.ไพรัช ไม่ทราบนามสกุล เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี


ต่อมา นายฉลอง ใจกล้า จึงได้พานายสนธยาเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประเสริฐ จันทร์แดง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าตูม เพื่อปรึกษาเรื่องดังกล่าว และประสานไปยัง ร.ต.อ.ไพรัช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สถานีตำรวจภูธรขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับข้อมูลว่า บัญชีของนายสนธยาได้ถูกนำไปหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้อื่น โดยให้โอนเงินเข้ามายังบัญชีของนายสนธยา และมีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้จำนวนมาก จึงได้สั่งอายัดหมายเลขบัญชีของนายสนธยาไว้ก่อน แต่ยังไม่ได้มีหมายเรียกถึงนายสนธยา เพื่อไปแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนนำสมุดบัญชี และเอทีเอ็ม ไปหลอกลวงฉ้อโกงแต่อย่างได

นายสนธยา เสพสุข กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนลาออกมาจากงานแล้ว ไม่เคยให้ใครยืมบัญชีธนาคาร หรือบัตร เอทีเอ็ม ไปเลย ไม่รู้ว่ามีเงินจำนวนมากโอนเข้ามาได้อย่างไร จึงอยากมาแสดงความบริสุทธิ์โดยลงบันทึกประจำวันไว้ หากมีหมายเรียกมาก็จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างที่สุด












กำลังโหลดความคิดเห็น