ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา จับมือร่วมหลายหน่วยงานภาครัฐหยุดธุรกิจบาปทาสค้ามนุษย์ ระดมกำลังกวาดล้าง ป้องปรามต่างด้าวอุ้มเด็กขอทาน ขายดอกไม้ คนเร่ร่อน นั่งขอทานในแหล่งท่องเที่ยวหลายจุด สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
ค่ำวานนี้ (21 มิ.ย.) นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย น.ส.นันทภัค ปองสุข ผู้อำนวยการศูนย์คนไร้ที่พึ่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.สุรเชษฐ เอนกศรี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสืบสวนภาค 2 รวมกว่า 60 นาย ออกกวาดล้าง ป้องปรามการค้ามนุษย์จากการขอทาน
รวมทั้งบุคคลต่างด้าวนำเด็กออกเร่ขายของ และกลุ่มคนเร่ร่อนไม่มีที่พัก เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เมืองท่องเที่ยวระดับโลก และได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ออกตรวจสอบใน 3 จุด คือ เลียบชายหาดพัทยา ซอยบัวขาว และโครงการวอล์กกิ้งสตรีทพัทยาใต้
จากการตรวจสอบจุดแรกบริเวณชายหาด พบว่า มีกลุ่มคนไทยปูเสื้อนั่งขอทานเรียงรายอยู่บนทางเท้าเลียบชายหาด และมีพฤติกรรมยกมือไหว้ขอเงินจากนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา หากนักท่องเที่ยวคนใดใจอ่อนจะนำเงินใส่กระป๋องที่วางไว้ด้านหน้าสำหรับรอรับเศษเงินจากความสงสาร
จุดที่ 2 ภายในซอยบัวขาว พบว่า มีบุคคลลักษณะเป็นคนพิการ ใช้อุปกรณ์ไม้เท้าค้ำยัน เดินถือแก้วเดินเร่ขอเงิน และยังพบหญิงต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม อายุ 42 ปี จูงเด็กผู้หญิงอายุ 7 ขวบ เดินเร่ขายดอกไม้ให้นักท่องเที่ยว จึงนำตัวไป สภ.เมืองพัทยา เพื่อตรวจสอบเอกสารแสดงตัวบุคคล
หญิงคนดังกล่าวยอมรับว่าออกมาเร่ขายดอกกุหลาบ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงดึก และจะมีรายได้วันละ 300-500 บาท ซึ่งขายมานานกว่า 5 เดือนแล้ว
ส่วนจุดที่ 3 ภายในแหล่งท่องเที่ยวหลักโครงการวอล์กกิ้งสตรีท เมืองพัทยา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยพบว่าบุคคลนั่งขอทานอยู่ 2 ราย จึงควบคุมตัวไป สภ.เมืองพัทยา
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบุคคลเร่ร่อนที่นอนอยู่ตามจุดต่างๆ หลายจุดทั่วเมืองพัทยา บางจุดจับกลุ่มดื่มแอลกอฮอล์ บางรายมีอาการทางประสาทไม่ยินยอมไปกับเจ้าหน้าที่
ส่วนในจุดอื่นๆ ที่ไม่ใช่จุดหลัก พบว่า มีต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา เป็นหญิงวัย 34 ปี อุ้มเด็กวัย 5 เดือน มานั่งขอทานบนฟุตปาธด้านหน้าวัดชัยมงคล พระอารามหลวงพัทยาใต้ จึงนำตัวไปตรวจสอบประวัติทั้งหมด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ให้ร่วมกันหยุดยั้งธุรกิจบาปที่เป็นทาสของการค้ามนุษย์ ด้วยการไม่สนับสนุนโดยการให้เงินกลุ่มบุคคลเหล่านี้ และหากพบเห็นการกระทำผิดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง