ลำพูน - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2 ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง “ครูสั่งเด็กสก็อตจัมพ์” จนกระดูกแตกร้าว รักษาตัวร่วม 5 เดือนไม่หาย ครอบครัวยากจนต้องแบกภาระค่ารักษา แถมชวดโอกาสเรียนต่อ ม.1
ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองของเด็กชายวัย 12 ปี ชาวจังหวัดลำพูน ร้องผ่านสื่อว่าลูกชายถูกครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน สั่งลงโทษให้สก็อตจัมพ์ วันเดียว 2 รอบ รวม 150 ครั้ง ช่วงเช้า 50 ครั้งเพราะไม่ใส่หน้ากากอนามัย และช่วงบ่าย 100 ครั้งเนื่องจากเข้าเรียนสาย เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา
จนทำให้ลูกเดินไม่ได้ต้องนอนรักษาตัวที่บ้านและโรงพยาบาลมาร่วม 5 เดือน เนื่องจากกระดูกขาแตกร้าวและติดเชื้อเป็นหนองในกระดูกขา ต้องทำการผ่าตัดเพื่อทำการรักษาที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ครอบครัวนักเรียนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการรักษาไปแล้วกว่า 50,000 บาท แต่ทางโรงเรียนได้มอบเงินช่วยเหลือมา 10,000 บาท สพป.ลำพูน เขต 2 อีก 3,000 บาท เท่านั้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากฐานะครอบครัวของนักเรียนยากจน
ต่อมาทางผู้บริหารของโรงเรียนและครูที่สั่งทำโทษเด็กได้ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้สั่งทำโทษเด็กสก็อตจัมพ์ถึง 150 ครั้งตามที่เป็นข่าว แต่สั่งลงโทษเด็กตอนเช้าแค่ 20-30 ครั้ง ส่วนช่วงบ่ายเด็กเข้าเรียนสายสั่งลงโทษไปแค่ 20 ครั้งและให้รับผิดชอบเก็บขยะเท่านั้น
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทางครูและโรงเรียนได้ให้การช่วยเหลือเด็กมาตลอด ทั้งเรื่องเงินช่วยเหลือ ทั้งพาเด็กไปหาหมอที่โรงพยาบาลหลายครั้ง ทั้งนำข้อสอบไปให้เด็กทำถึงบ้านเพื่อให้เด็กจบการศึกษา แม้กระทั่งส่งข้าวเที่ยงให้เด็กถึงบ้าน ไม่ได้ละเลย ครั้งล่าสุดครูก็ไปส่งเด็กไปหาหมอที่ รพ.ลำพูน และไปทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่กี่วันมานี้ รวมทั้งทางโรงเรียนและครูก็เตรียมหาทางช่วยเหลือเด็กอย่างต่อเนื่องด้วย
ล่าสุดนายลิขสิทธิ์ ผลจันทร์งาม รอง ผอ.สพป.ลำพูน เขต 2 เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางเขตได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว เพื่อไปดูถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีใครที่จะต้องรับผิดชอบ ทั้งครูและผู้ที่เกี่ยวข้องมีการกระทำความผิดหรือไม่ ถ้ามีก็จะเป็นการสอบสวนทางวินัย
และเมื่อวานนี้ (20 มิ.ย. 66) ผอ.เขต ก็ได้ไปเยี่ยมอาการของเด็กที่ รพ. และทราบว่าจะเข้าผ่าตัดในช่วงสายของวันนี้ (21 มิ.ย.) ส่วนการช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายของเด็กส่วนแรกทางเขตฯ ก็จะมีการระดมเงินจากกองทุนที่ สพป.เขตร่วมกันตั้งขึ้นคือกองทุนช่วยเหลือเด็กในภาวะยุ่งยากลำบาก และอีกส่วนคงจะมาจากการระดมทุนช่วยเหลือจากทางโรงเรียนเอง หรือในอำเภอทุ่งหัวช้าง ตลอดจนอีกหลายส่วนเพื่อช่วยกันแน่นอน
ด้านการเรียนต่อชั้น ม.1 นั้นก็ขึ้นอยู่กับเด็กว่าอยากจะไปเรียนที่ไหน ส่วนของโรงเรียนขยายโอกาสหรือโรงเรียนทุ่งหัวช้างพิทยาคม ทางเขตฯก็จะประสานช่วยเหลือเด็กเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทาง สพป.เขตฯ ก็ได้ย้ำกับผู้บริหารและครู ให้ความสำคัญในนโยบายความปลอดภัยของสถานศึกษาตามนโยบายของทางกระทรวง ทั้งความปลอดภัยจากบุคคลภายนอก, ตัวคุณครู, ตัวเด็กเอง หรือการเล่นระหว่างเพื่อน
โดยเฉพาะการลงโทษอย่าง สก็อตจัมพ์ บางทีก็ต้องดูสภาพร่างกายของเด็กด้วยว่าไหวหรือไม่ ซึ่งก็มีวิธีการลงโทษเด็กเล็กๆ น้อยๆ หลายวิธี เช่น ให้ทำการบ้านหรือคัดลอกลายมือ หรือให้เด็กมาอ่านหนังสือให้ฟัง หรือทำความสะอาดในห้องเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของครูเช่นกัน