xs
xsm
sm
md
lg

“ครูฯ ทุ่งหัวช้าง ลำพูน” ยันไม่ได้สั่งทำโทษเกินเลยจนเด็ก ป.6 กระดูกแตก-ขาอักเสบ พร้อมดูแลมาตลอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำพูน - ผู้อำนวยการโรงเรียนฯทุ่งหัวช้าง ลำพูน-ครูประจำชั้นยันไม่ได้สั่งทำโทษนักเรียน ป.6 สก็อตจัมพ์หลักร้อยจนเด็กกระดูกแตก-ขาอักเสบติดเชื้อ รักษานาน 5 เดือนไม่หาย ไม่ได้เรียนต่อ ม.1 เผยรุ่งขึ้นเด็กยังมาเรียนได้ปกติ พอทรุดยังติดตามดูแลอาการตลอด


ความคืบหน้ากรณี นร.ประถม 6 ทุ่งหัวช้าง เมืองลำพูน..ลืมหน้ากากอนามัยไปโรงเรียน-เข้าห้องเรียนช้า โดนครูสั่งลงโทษวันเดียว 2 รอบ ให้ลุกนั่งรวม 150 ครั้ง จนกระดูกแตก-ขาซ้ายอักเสบติดเชื้อ เข้า-ออก รพ.รักษาตัวนาน 5 เดือนไม่ดีขึ้น ไม่ได้เรียนต่อ ม.1 ร.ร.ช่วย 10,000-สพป.จ่าย 3 พัน

ล่าสุดวันนี้ (20 มิ.ย. 66) นายจรัล มณีจันสุข นายอำเภอทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านโป่งแดง หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน เพื่อติดตามกรณีดังกล่าว โดยมีนายบัณฑิต กันธิวัง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน ให้การต้อนรับและชี้แจงเรื่องราวว่าที่ผ่านมาทางครูที่เกี่ยวข้องและโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามอาการและนำเด็กไปหาหมอ รวมถึงมอบเงินช่วยเหลือไม่ได้ละเลยเด็กตามที่เป็นข่าว

นายบัณฑิต กันธิวัง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยด้วยว่าเพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ (วันที่ 8 มิ.ย. 66) แต่ก็ทราบเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะทางเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูนเขต 2 ได้กำชับให้ตามเรื่องเช่นกัน ซึ่งเท่าที่รู้เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ. 66 ตอนแรกเด็กถูกครูสั่งทำโทษโดยการให้ลุกนั่งประมาณ 20-30 ครั้ง ช่วงบ่ายเด็กเข้าเรียนสายจึงถูกครูสั่งทำโทษอีก 20 ครั้ง และให้เก็บขยะ โดยไม่ได้สั่งทำโทษเป็นร้อยครั้งตามที่เป็นข่าว

และวันต่อมาวันที่ 10 ก.พ. 66 เด็กมาเรียนตามปกติ วันที่ 11 ก.พ. 66 เด็กก็ยังขี่รถ จยย.มาสอบโอเน็ตได้ จนวันจันทร์ที่ 13 ก.พ. 66 เด็กไม่มาโรงเรียนเพราะไม่สบาย วันที่ 15 ก.พ. เด็กก็ไม่มาโรงเรียนอีก ครูจึงโทร.ไปสอบถามและไปเยี่ยมที่บ้านแล้วก็พาเด็กไปหาหมอเพราะปวดเข่าซ้าย หมอให้ยาแก้ปวดและมารักษาตัวที่บ้าน

จนกระทั่งวันที่ 16 ก.พ.ผู้ปกครองถึงมาบอกว่าสาเหตุที่เด็กปวดขามาจากการที่ครูสั่งทำโทษให้ลุกนั่ง ซึ่งครูก็ยังไปเยี่ยมและติดตามอาการเด็กเรื่อยมา จนวันที่ 20 ก.พ.ครอบครัวให้ครูไปผูกข้อมือให้เด็กและขอขมาเจ้าที่ตามความเชื่อ ครูก็ไปให้ และวันที่ 23 ก.พ.ทางครูก็รวบรวมเงินกันได้ประมาณ 10,000 บาท นำไปมอบแก่ครอบครัวของเด็กเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา วันที่ 27 ก.พ.สำนักงานเขตพื้นที่ฯ ก็มอบเงินช่วยเหลืออีก 3,000 บาท

วันต่อมา (28 ก.พ. 66) ครูและครอบครัวก็พาเด็กไปหาหมอ รพ.ทุ่งหัวช้าง ซึ่งหมอบอกว่าเด็กอาการหนักต้องให้นอนรักษาตัวที่ รพ.แต่ทางครอบครัวไม่ให้เด็กนอน เพราะไม่สะดวก ขณะที่ครูก็คอยติดตามอาการเด็กมาตลอดและเด็กก็ไปรักษาตัวที่ รพ.สลับกับรักษาตัวที่บ้าน

จนวันที่ 14 มิ.ย.เด็กอาการหนักขึ้น รพ.ทุ่งหัวช้างส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ลำพูน และไปทำเอ็มอาร์ไอ (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์) ที่เชียงใหม่ กระทั่งทราบผลเมื่อ 19 มิ.ย.เด็กมีอาการหนักกระดูกอักเสบ มีหนองและฝีในกระดูกจนกลายเป็นข่าว

“ตอนนี้ทางโรงเรียนกำลังหารือเพื่อช่วยเหลือเด็กเช่นกันและจะเข้าไปเยี่ยมเด็กที่ รพ.ด้วย ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมาทางโรงเรียนและครูก็ไม่เคยละเลยเด็กคอยติดตามอาการเด็กมาตลอด โดยสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือโฟกัสในเรื่องการช่วยเด็กก่อน”


ด้านนายนพดล มังสังข์ อายุ 30 ปี ครูประจำชั้นที่สั่งทำโทษ เปิดเผยว่า การลงโทษเด็กไม่ได้เยอะมากตามที่เป็นข่าว โดยตอนเช้าให้สก็อตจัมพ์ 20-30 ครั้งเพราะไม่ใส่หน้ากากอนามัย บ่ายแค่ 20 ครั้ง แล้วก็มอบหมายให้เก็บขยะ เด็กส่วนใหญ่บางคนทำไหวแค่ไหนก็เท่านั้น เพราะต้องการให้รู้แค่ว่าเขาทำผิด ซึ่งในวันรุ่งขึ้นน้องเขาก็มาโรงเรียนตามปกติ ถ้าดูจากภาพกล้องวงจรปิดตอนที่พักเที่ยงจะเห็นน้องเขาวิ่งได้อยู่

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหตุก็ดูแลทั้งส่งข้าวเที่ยงให้ พาไปส่ง รพ. เอาข้อสอบไปสอบถึงที่บ้านเพื่อให้เด็กจบการศึกษาให้ได้ จนล่าสุดผู้ปกครองมาขอให้ไปส่ง รพ.เพราะเด็กไม่เจ็บ ไม่ไข้ ไม่ปวด แต่ลุกไม่ได้ จึงพาไปหาหมอที่ รพ.จนทราบว่าเด็กกระดูกแตกหัก

ซึ่งตนก็ได้ถามหมอว่าการให้เด็กลุกนั่งจะทำให้เด็กกระดูกแตกหักได้หรือไม่ หมอก็บอกว่าเป็นไปได้ยากเพราะเป็นกระดูกขาชิ้นใหญ่แข็งแรงมาก ต้องโดนกระแทกอย่างแรงเท่านั้น ขณะที่ผู้ปกครองก็ยืนยันว่าเด็กไม่เคยไปกระแทกรือรถล้มแต่อย่างใด จนวันที่ 14 มิ.ย. 66 พาไปเอ็มอาร์ไอที่เชียงใหม่ก็ทราบผลดังกล่าว อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายืนยันว่าได้ติดตามและดูแลเด็กมาโดยตลอด


กำลังโหลดความคิดเห็น