พิจิตร - ชาวนาพิจิตร 11 หมู่บ้านลงมติขอเปิดขุมเหมืองยิปซัมเก่า รวมร่วม 400 ไร่ สูบน้ำสู้แล้ง เชื่อช่วยนาข้าวหอมมะลิทั้งนาปี/นาปรัง ได้กว่า 7 พันไร่ สร้างเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านต่อปี
นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ว่าที่ ส.ส.พิจิตร เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ได้รับการประสานงานจากนายจรัญ พุ่มพฤกษ์ นายก อบต.วังงิ้ว ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจแหล่งน้ำที่เกิดจากการขุดเหมืองแร่ยิปซัมในอดีตของบริษัท SCG ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังงิ้วใต้ อ.ดงเจริญ ที่หมดสัมปทานไปแล้ว 40 ปี
ในโอกาสนี้ได้มีการทำเวทีพบปะพูดคุยกับชาวบ้านของ ต.วังงิ้ว ทั้ง 11 หมู่บ้าน เพื่อฟังปัญหา ความต้องการของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเกษตรกรมีอาชีพทำนา ทำไร่ ต่างแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าอยากใช้ประโยชน์แหล่งน้ำจากขุมเหมืองแร่ยิปซัมเก่าที่มีถึง 3 แปลง พื้นที่รวมๆ กันมากกว่า 400 ไร่
ประชาคมชาวบ้านมองว่าถ้าสามารถผลักดันทำโครงการก่อสร้างระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ก็จะสามารถสูบน้ำช่วยชาวนาในพื้นที่ดังกล่าวนี้ได้ถึง 11 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่การปลูกข้าวหอมมะลิกว่า 7,000 ไร่ คาดว่าสามารถเพิ่มมูลค่าเป็นรายได้ให้ประชากรที่มีอยู่ทั้งสิ้น 3,922 คน ให้มีรายได้อย่างน้อยปีละ 30 ล้านบาท
นายดณัญ ฤทธิ์เรืองเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านดงเจริญ อ.ดงเจริญ เปิดเผยว่า เดิมทีชาวบ้านได้อานิสงส์ระหว่างบริษัททำเหมืองแร่ยิปซัม บ่อที่ 1 เนื้อที่ 199 ไร่ บ่อที่ 2 พื้นที่ 130 ไร่ บ่อที่ 3 พื้นที่ 57 ไร่ ซึ่งทั้ง 3 บ่อ มีความลึกเฉลี่ย 80 เมตร ที่ยังมีการดำเนินการอยู่สูบน้ำออกเพื่อการทำเหมือง แต่ก็ไม่มากนัก
ดังนั้น หากถ้ามีโครงการสูบน้ำจากบ่อแร่ยิปซัมเก่าอย่างเป็นรูปธรรมก็น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลให้แก่ชาวนาของ ต.วังงิ้ว และ ต.วังงิ้วใต้ ของ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร จึงได้ร่วมคิดร่วมเสนอผ่านไปยัง นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ว่าที่ ส.ส.พิจิตร เขต 2 ขอให้ช่วยประสานงานและผลักดันโครงการดังกล่าวนี้ด้วย