ตราด - กระทรวงมหาดไทย ยกพื้นที่ทางเข้าหาดทรายดำ อ.แหลมงอบ จ.ตราด นำร่องโครงการขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินตาบอดให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ภาครัฐในการพัฒนาถนน ไฟฟ้า ประปาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยยังคงไว้ในกรรมสิทธิ์
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณทางเข้าหาดทรายดำ ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ถนนอย่างเป็นทางการ โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมมอบโฉนดที่ดินให้แก่เจ้าของที่ดินที่เข้าร่วมโครงการ
ขณะที่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการจัดรูปที่ดินเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่กรมโยธาธิการและผังเมืองให้การสนับสนุนให้ทุกจังหวัดดำเนินโครงการก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวมโดยใช้การจัดรูปที่ดินเป็นกลไก และขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 53 จังหวัด รวม 67 โครงการ เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการร่วมกันพัฒนาเมืองระหว่างเจ้าของที่ดินกับหน่วยงานภาครัฐ
ส่งเสริมให้ประชาชนนำที่ดินตาบอดซึ่งสาธารณูปโภคเข้าไม่ถึง มาร่วมกันกับภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปาที่ได้มาตรฐาน เข้าถึงที่ดินทุกแปลงเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเจ้าของที่ดินยังคงกรรมสิทธิ์ไว้ โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการยังเป็นผู้ปันส่วนหรือเสียสละที่ดินของตน เพื่อเป็นถนนและสวนสาธารณะ โดยรัฐไม่มีการเวนคืนที่ดิน
ทั้งนี้ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตราด ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมงอบ ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณทางเข้าหาดทรายดำ ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด พัฒนาพื้นที่และก่อสร้างถนนสาย ก 2 ตามที่กำหนดไว้ในผังเมืองรวมชุมชนแหลมงอบ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการผังเมือง
โดยเป็นโครงการนำร่องของจังหวัดตราด ที่มีขนาดพื้นที่โครงการ 89 ไร่เศษ ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563-2565 จำนวน 34,741,500 บาท เพื่อก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กสาย ก 2 ขนาดเขตทาง 12 เมตร ระยะทาง 615 เมตร พร้อมระบบระบายน้ำ ขยายเขตไฟฟ้า ประปา
รวมทั้งก่อสร้างสะพานข้ามคลองปอ 2 แห่ง เขื่อนป้องกันตลิ่งและพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาหาดทรายดำ มีเส้นทางสัญจรที่สะดวกปลอดภัย รองรับการขยายตัวของชุมชนให้เกิดความน่าอยู่ในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาเมืองเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่าในทุกมิติ
