xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจซ้ำ! นักธุรกิจสาวเชียงใหม่ผู้เสียหายรถไฟฟ้า POCCO จดทะเบียนไม่ได้-หวั่นบริษัทไม่รับผิดชอบซื้อคืนตามประกาศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - นักธุรกิจสาวเชียงใหม่ผู้เสียหายซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อดังมาใช้นานนับปีแล้วยังจดทะเบียนไม่ได้ เปิดใจซ้ำอีกรอบ หลังบริษัทรถประกาศรับผิดชอบซื้อคืนเต็มราคา เผยได้รับการติดต่อมาแล้ว และต้องการขายคืนให้ อย่างไรก็ตามยอมรับยังไม่ค่อยเชื่อมั่น เหตุให้รออีก 15 วันแบบไร้หลักประกัน หวั่นแค่ถ่วงเวลาแต่สุดท้ายบ่ายเบี่ยงซ้ำ จี้ควรแสดงความจริงใจมากกว่านี้


ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 66 นางสาวสิพิมพ์ มนัสสวัสดิ์ อายุ 32 ปี สาวนักธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่ ออกมาเปิดเผยบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์จากการที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่งในราคา 449,000 บาท มาใช้นานเป็นปีแล้ว แต่ปรากฏว่าจนถึงทุกวันนี้ยังต้องใช้ป้ายแดงโดยที่ไม่สามารถจดทะเบียนกับทางขนส่งได้ รวมทั้งไม่สามารถทำประกันภัยได้ด้วย ทั้งที่ตอนซื้อจากทางบริษัทรถยนต์ดังกล่าวนั้น มีการยืนยันว่าสามารถจดทะเบียนได้ ซึ่งทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะไม่กล้านำรถออกมาขับ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนแล้วไม่สามารถรับผิดชอบได้ พร้อมบอกด้วยว่ามีผู้ที่เดือดร้อนเช่นเดียวกันนี้อีกหลายคน จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ขณะที่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา ทางบริษัทที่จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า POCCO ได้ออกประกาศเรื่อง การแสดงความรับผิดชอบ ความว่า "สืบเนื่องจากกรณีการจดทะเบียนล่าช้าของ POCCO เนื่องจากกรณีที่ลูกค้าได้ทำการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า POCCO และเกิดปัญหาเรื่องของการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า POCCO ล่าช้า ทางบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยประสานงานกับทางหน่วยงานของรัฐเพื่อให้ POCCO สามารถจดทะเบียนได้เร็วที่สุด เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจ และความตั้งใจในการแก้ปัญหา บริษัทขอแสดงความรับผิดชอบดังนี้

ลูกค้าที่ได้ทำการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า POCCO และยังไม่ได้จดทะเบียนป้ายขาว หากลูกค้าท่านใดเกิดความไม่สบายใจกับกรณีที่เกิดขึ้น และไม่ประสงค์จะรอการจดทะเบียน ทางบริษัทยินดีที่จะทำการซื้อคืนรถยนต์ไฟฟ้า POCCO เต็มราคาที่ลูกค้าได้ซื้อไป เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจ และไว้วางใจในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า POCCO อย่างไรก็ตามบริษัทขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และยินดีที่จะแสดงความรับผิดชอบทุกประการ ทั้งนี้บริษัทพร้อมปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพในทุกๆ ด้าน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทุกท่านต่อไป”


วันนี้ (7 มิ.ย. 66) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวสิพิมพ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า POCCO มาใช้และได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า กรณีของตัวเองหลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไปแล้ว ปรากฏว่าทางบริษัทได้ติดต่อกลับมาทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผ่านมาเป็นเวลานับปีที่ติดตามป้ายทะเบียนแต่ไม่ได้ความคืบหน้าใดๆ แถมถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด เชื่อว่าที่ทางบริษัทดังกล่าวรีบติดต่อมาเพราะตกเป็นข่าว เบื้องต้นก็พยายามเจรจาเรื่องของความรับผิดชอบและอธิบายว่าสาเหตุที่ทำให้จดทะเบียนล่าช้าเกิดจากขั้นตอนของการประสานงานกับทางราชการ แต่ตัวเองและผู้เสียหายที่ได้รวมกลุ่มพูดคุยกันก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าจะได้ป้ายทะเบียนรถเมื่อไหร่

กระทั่งล่าสุดหลังจากที่บริษัทได้มีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 66 เรื่องขอรับผิดชอบคืนเงินนั้น เบื้องต้นทราบว่าบริษัทจะคืนเงินให้เฉพาะผู้ที่ซื้อรถรุ่นนี้ล็อตแรกกว่า 100 คันเท่านั้นที่จะได้สิทธิ์คืนเงินเต็มจำนวน แต่ส่วนของตัวเองได้รับการติดต่อล่าสุดเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย. 66) ทางบริษัทอ้างว่ารถของตนเป็นกรณีที่ทำสัญญากับไฟแนนซ์ จึงต้องรอเคลียร์เรื่องยอดเงินกับไฟแนนซ์ จึงขอเวลา 15 วัน ซึ่งตนมีความประสงค์จะขอเงินคืนเช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นอยู่แล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องรอนานถึง 15 วัน เพราะวันนี้ได้ติดต่อกับทางไฟแนนซ์แล้วว่าจะทำเรื่องเสร็จและส่งให้บริษัทรถภายในวันนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องรอถึง 15 วัน และที่สำคัญไม่มีหลักประกันอะไรออกมาอย่างเป็นทางการ เช่น หนังสือหรือเอกสารแสดงความรับผิดชอบที่เป็นลายลักษณ์อักษร


นอกจากนี้แล้วก็ยังไม่รู้ว่าวิธีการขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ตามที่กล่าวอ้างมาเป็นเช่นใดเพราะเมื่อถามกลับก็ยังถูกอ้างไปถึงผู้บริหารต่ออีก ซึ่งตอนนี้แม้ว่าจะมีการออกจดหมายแสดงความรับผิดชอบมาแต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ แต่ก็ทำได้เพียงรอดูว่าเมื่อถึงตามกำหนดจะเป็นอย่างไร ส่วนรถของตัวเองนั้น เวลานี้ต้องจอดทิ้งไว้ที่บ้านเพราะเอกสารอะไรก็ไม่มี แม้จะมีป้ายแดงที่ติดมาให้ แต่ในสมุดคู่มือป้ายแดงก็ไม่ได้ลงข้อมูลของรถคันนี้ และที่สำคัญคือประกันชั้น 1 ที่ทำไว้ก็หมด จึงต้องจอดทิ้งไว้ที่บ้านไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามในกลุ่มผู้เสียหายด้วยกันเองก็ยืนยันว่าทั้งหมดยังไม่ได้ป้ายทะเบียนรถในรุ่นนี้เลยสักคัน หลายคนเตรียมที่จะดำเนินการร้องเรียนไปกับทาง สคบ.ควบคู่กันไป เนื่องจากกลัวว่าการออกจดหมายแสดงความรับผิดชอบนี้อาจเป็นเพียงการถ่วงเวลาออกไปอีกเท่านั้น จึงอยากให้ทางผู้บริหารของบริษัทออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ และเป็นทางการ เพื่อความมั่นใจมากกว่านี้และอยากให้เร่งรัดในการดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้าที่เสียหายโดยเร็วที่สุด




กำลังโหลดความคิดเห็น