สระบุรี - เปิดใจเหยื่อสถานสงเคราะห์รายใหม่ รับไม่ได้ถูกทำโทษให้ดื่มน้ำผ้าอนามัยเดือนละครั้ง เผยเป็นความทุกข์ทรมาน ตลอด 10 ปี ที่เธออยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กสระบุรี
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเจอกับเหยื่อสถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี เพิ่มเติมอีก 1 คน เธอชื่อว่า ดอกไม้ (นามสมมติ) เล่าว่า ปัจจุบันเธออายุ 21 ปี และออกจากสถานสงเคราะห์มาได้ 2 ปีแล้ว เธอเป็นคนอุทัยธานี ซึ่งบ้านพักเด็กอุทัยธานีส่งตัวเธอมาอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี ตอน 8 ขวบ
ในช่วงแรกคิดว่าเหมือนบ้านหลังหนึ่ง แต่อยู่ไปรู้สึกผิดปกติ บรรดาแม่ หรือพี่เลี้ยงที่ดูแลมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง เช่น การลงโทษด้วยการใช้ไม้ตี ใช้เข็มขัดฟาด หรือหยิบอะไรได้ก็ตีตามอารมณ์ของแม่แต่ละคน ซึ่งตนเองคิดว่ามันเกินไป เพราะความผิดแค่เชื่องช้า ไม่ทำตามคำสั่งทันที ก็จะโดนและตั้งกฎยิบย่อยแล้วแต่แม่แต่ละคนจะตั้ง แต่ยอมรับว่ามีแม่บางคนที่อ่อนโยน ไม่ทำร้ายร่างกายก็มี
แต่ส่วนใหญ่จะใช้ความรุนแรง เพราะช่วงที่เป็นเด็กอยู่อาคารบัวชมพู แล้วย้ายมาอาคารทานตะวัน และย้ายมาอาคารสมโภช ก่อนจะย้ายกลับไปทานตะวันอีกครั้ง ซึ่งยืนยันได้ว่า แต่ละบ้านมีห้องมืดหมด แล้วแต่ว่าจะเป็นห้องแบบไหน โดยแม่จะขังเอาไว้ในห้องแล้วล็อกกุญแจ ส่วนระยะเวลาที่ขังไว้แล้วแต่บทลงโทษของแม่แต่ละคนเป็นผู้กำหนดเอง
ดอกไม้ เล่าอีกว่า แต่พอโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น เข้ามัธยม การลงโทษมีอีกแบบ คือให้ดื่มน้ำผ้าอนามัยตนเอง แล้วโดนทุกเดือน บางทีเพื่อนไม่เก็บทิ้ง แล้วแม่ไปเจอทุกคนในบ้านที่มีประจำเดือนจะโดนให้กินครึ่งแก้ว ใครไม่ยอมกินจะโดนกินเต็มแก้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนรับไม่ได้และเป็นปมที่อยู่ในใจมาตลอดเวลา
เวลาได้ออกไปโรงเรียนไม่อยากจะกลับสถานสงเคราะห์อีกเลย เพราะต้องมาทำงาน ทำความสะอาด ซึ่งอยากทำการบ้าน ทำอะไรส่วนตัว ไม่ทำก็ถูกลงโทษ ยอมรับว่าสงสารน้องๆ ที่ยังอยู่ ซึ่งอยากบอกว่าไม่ได้มีแม่แค่คนสองคนที่ทำทารุณกรรม แต่แม่เกือบทุกคนทำกับเด็กอย่างรุนแรง
ดอกไม้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า เงินบริจาค ขนม เสื้อผ้าที่มีคนบริจาค เด็กๆ จะได้รับเพียงบางส่วน ส่วนเงินที่คนบริจาคยื่นให้กับมือจะถูกเก็บไป บอกว่าเอาไปเข้าบัญชีให้ เธออยู่มา 10 ปี มีเงินแค่ 8,000 บาท เพราะตนเองได้ทุนโรงเรียน และเงินบริจาคมาตลอด ส่วนรองเท้าผ้าใบจะได้รับการจัดสรรมาให้บอกว่าสั่งซื้อมาจากร้าน ก่อนที่จะมารู้ตามข่าวว่าทุกอย่างได้รับการบริจาคมาทั้งหมด รวมถึงอาหาร เวลาคนใจบุญมาเลี้ยง แม่จะขนกลับบ้าน เป็นภาพที่ตนเองเห็นมาตลอด 10 ปีที่อยู่ที่แห่งนี้