xs
xsm
sm
md
lg

ตอกย้ำความโหด! รุ่นพี่เคยอยู่สถานสงเคราะห์สระบุรี เผยภาพติดตาพี่เลี้ยงลงโทษเด็ก ป.4 ด้วยการกระทืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระบุรี - เปิดใจรุ่นพี่เคยอยู่สถานสงเคราะห์สระบุรี เผยเคยเห็นเหตุการณ์การพี่เลี้ยงลงโทษเด็ก ป.4 ด้วยการกระทืบเพียงแค่แอบใส่เสื้อชั้นใน ซึ่งเด็กในหอพักไม่มีใครกล้าฟ้องผู้ใหญ่

กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thanya Wannasathit ได้โพสต์แชร์รูปภาพเด็กหญิงถูกปิดปาก มัดมือ มัดเท้า นั่งอยู่บนชักโครก อยู่ในห้อง และภาพเด็กหญิงนอนเรียงกัน 3 คน อยู่ในห้องอาบน้ำ ในสถานสงเคราะห์สระบุรี จนนำไปสู่การตรวจสอบ และดำเนินคดีพี่เลี้ยง และสั่งย้ายผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เข้าส่วนกลาง

ล่าสุด น้องละมุด (นามสมมติ) เปิดเผยกับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน ว่า ตนเองเคยอาศัยอยู่ที่สถานสงเคราะห์ดังกล่าวตั้งแต่อายุ 10-13 ปี ซึ่งปัจจุบันตนอายุ 21 ปีแล้ว สำหรับประสบการณ์ที่เคยอยู่ในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว เคยเห็นเหตุการณ์การพี้เลี้ยงลงโทษเด็ก ป.4 ด้วยการกระทืบ สาเหตุเกิดจากเด็กคนดังกล่าวแอบใส่เสื้อชั้นใน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเด็กในหอพักไม่มีใครกล้าฟ้องผู้ใหญ่

นอกจากนี้ ยังมีการลงโทษเด็กหลายวิธี ซึ่งการลงโทษนั้นจะมีหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ตักเตือน ไปจนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนเคยเห็นแม่บ้านลงโทษเด็กด้วยการตบหน้า ไม่ทราบว่าเด็กที่โดนลงโทษนั้นทำผิดเรื่องอะไร แต่ได้ยินแม่บ้านพูดกับเด็กว่า "มึงอ่อยผัวกูหรอ" ซึ่งแม่บ้านคนดังกล่าวนั้นมีสามีทำงานอยู่ในสถานสงเคราะห์ด้วยกัน

ด้านอดีตเจ้าหน้าที่เคยอยู่ในสถานสงเคราะห์ มา 35 ปี ปัจจุบันเกษียณอายุราชการ เผยว่า รู้สึกหดหู่หลังรู้ข่าวเด็กโดนทารุณ เพราะในอดีตไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ เพราะความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซ้ำร้ายจะทำให้เด็กมีปมในใจ ตนเองเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในสถานสงเคราะห์ตั้งเเต่ปี 20 ก่อนจะเกษียณอายุราชการเมื่อปี 55 ซึ่งบรรยากาศการทำงานในช่วงนั้นดีมาก เจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็กจะต้องผ่านการอบรมและมีการตรวจสุขภาพจิตจากนักจิตวิทยาเป็นประจำทุกปี ซึ่งในการดูแลเด็กจะไม่มีการลงโทษโดยการทำร้ายร่างกาย หรือทารุณกรรมเด็ก แต่หากว่าเด็กคนใดมีอาการก้าวร้าว หรือดื้อจะมีการแก้ปัญหาโดยการเรียกเด็กมาพูดคุยกับนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้เด็กไว้ใจจะได้ทราบถึงต้นเหตุของปัญหา ก่อนจะใช้จิตวิทยาในการแก้ไขดังกล่าว ส่วนการใช้ความรุนแรงกับเด็กนอกจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว ยังจะทำให้อาการก้าวร้าวของเด็กเพิ่มมากขึ้นและจะเป็นปมในใจของเด็กในระยะยาว

ซึ่งหลังจากที่ตนเกษียณอายุราชการออกมาแล้วไม่ทราบข่าวคราวด้านในว่าเป็นอย่างไรบ้าง หรือกฎระเบียบภายในเป็นอย่างไร จนกระทั่งวันนี้มาเห็นข่าวว่ามีการทารุณกรรมเด็ก ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มองว่ายังไม่ควรฟังความข้างเดียว เพราะเด็กที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์นั้นมีที่มาแตกต่างกัน เด็กแต่ละคนลักษณะนิสัยไม่เหมือนกัน แต่ถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงรู้สึกหดหู่ เพราะมองว่าคนที่จะมาดูแลเด็กนั้นควรจะต้องมีความรัก มีความเมตตา และมีจิตวิทยากับเด็ก








กำลังโหลดความคิดเห็น