เชียงใหม่/แม่ฮ่องสอน - นายจ้างร้องขอความเป็นธรรม..ถูกสื่อประโคมข่าวทำร้ายลูกจ้างสาวไทใหญ่จนแท้งลูก-กะโหลกศีรษะร้าว เกินความเป็นจริง กระทบทั้งชื่อเสียง-ธุรกิจ แฉงานนี้มีคนอยู่เบื้องหลัง เตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทั้งคนยุแยง-สื่อที่บิดเบือน
ความคืบหน้ากรณีมีการนำเสนอข่าว น.ส.หอม ไม่มีนามสกุล อายุ 31 ปี ลูกจ้างชาวไทใหญ่ สัญชาตเมียนมา ท้อง 4 เดือน ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายระหว่างเข้าห้ามปรามนายจ้างชายทะเลาะกับภรรยาเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา จนกะโหลกร้าวและแท้งลูกในครรภ์
หลังเกิดเหตุ น.ส.หอม ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอนในวันที่ 20 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าหลังเกิดเหตุนาย ช. (นามสมมติ) นายจ้างได้หลบหนีออกนอกพื้นที่นั้น
วันนี้ (30 พ.ค. 66) นาย ช. (นามสมมติ) พร้อมด้วยนายคณิต โชติขุนทศ ทนายความ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่ จ.เชียงใหม่ และร้องขอความเป็นธรรมต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องราวไม่ได้เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้า ที่ทำให้ตนซึ่งเป็นนักธุรกิจและมีคนรู้จักเกือบทั้งจังหวัดได้รับความเสียหาย มีผลกระทบทางธุรกิจ
โดยคืนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีเจตนาทำร้าย น.ส.หอม แต่ได้ไปตามหาภรรยาที่ห้องพักของ น.ส.หอม พบภรรยากับ น.ส.หอม นอนด้วยกันอยู่ในห้อง ตนได้ดึงแขนภรรยาเพื่อให้กลับบ้านและมีการยื้อยุดฉุดกระชาก จังหวะนั้น น.ส.หอมได้เข้ามาดึงแขนตนไว้ไม่ยอมให้ภรรยาของตนเองกลับบ้าน ตนจึงสะบัดแขนไปถูกบริเวณคอและได้จับแขนทั้งสองข้างของ น.ส.หอม ไว้และบอกว่า “เรื่องครอบครัวอย่ามายุ่ง“ ก่อนจะพาภรรยากลับบ้าน
กระทั่งช่วงสายตนได้ไปขอโทษ น.ส.หอม ที่หอพักพร้อมกับอนุญาตให้หยุดงานพักผ่อน และเย็นวันเดียวกันก็ยังให้ภรรยาพา น.ส.หอมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน ผลตรวจพบรอยฟกช้ำเล็กน้อยที่คอ ขณะที่ น.ส.หอมไม่ติดใจเอาความ ตนจึงได้ให้เงิน 10,000 บาทเพื่อเยียวยา
แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น (20 พ.ค. 66) น.ส.หอมกลับไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยระหว่างเจรจามีชายลึกลับคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกให้ น.ส.หอมเรียกเงินค่าเสียหายถึง 200,000 บาท ตนก็บอกไปว่าไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ก่อนในที่สุดจะเจรจาตกลงได้ที่ 20,000 บาท และตนก็ได้โอนเงินให้ครบจำนวน พร้อมลงบันทึกประจำวันว่าไม่ติดใจเอาความกันจบไปแล้ว
นาย ช.เปิดเผยต่ออีกว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าลูกจ้างตั้งครรภ์และยืนยันไม่ได้มีเจตนาทำร้าย เพราะที่ผ่านมาตนเมตตาให้ทำงาน ให้อยู่ห้องพักฟรี และยังดูแลลูกจ้างคนนี้มาตลอด ก่อนหน้านี้ทราบว่าเป็นมะเร็งก็ยังไปหาสมุนไพรอย่างดีมาให้กินจนอาการดีขึ้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนได้ขอโทษแลเยียวยาไปตามสมควรแล้ว แต่เชื่อว่าที่เรื่องไม่ยอมจบเป็นเพราะมีใครบางคนพยายามยุยงปลุกปั่นหวังผลประโยชน์บางอย่างแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน
“ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีปัญหากับภรรยาจนถึงขั้นหย่ากันแล้ว แต่ก็ยังอยู่กินกันฉันสามีภรรยาและทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีให้กับลูกทั้งสองคน รวมทั้งเคยให้โอกาสภรรยามาแล้วหลายครั้ง เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะมีการวางแผนกันมาล่วงหน้าอย่างเป็นขบวนการ”
ด้านนายคณิต โชติขุนทศ ทนายความ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) จะพานาย ช.ดินทางไปพบกับร้อยเวรที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับขอประกันตัวออกมาสู้คดีตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งจนถึงขณะนี้ น.ส.หอม ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี เป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาอะไร แต่กลับมีข่าวว่านาย ช.หลบหนีออกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
เพราะทุกพื้นที่ที่ไปทำงานก็จะเข้าลงบันทึกประจำวันไว้ทุกแห่ง โดยหลังเกิดเหตุได้ไปส่งลูกอยู่กับญาติชั่วคราวที่ อ.ปาย ก่อนเดินทางมาปรึกษาทนายที่ จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังได้เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ข้อมูลยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
“ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงที่ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้เขาต้องได้รับผลกระทบและทำให้ต้องทำเรื่องขอย้ายลูกออกจากโรงเรียนเดิม และขอเรียกร้องให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้เริ่มกระบวนการสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความจริง และพร้อมจะนำหลักฐานดำเนินคดีต่อผู้ที่นำข่าวบิดเบือนทำให้ลูกความได้รับความเสียหาย เพื่อดำเนินการฟ้องทางแพ่งให้ถึงที่สุด”
