ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา จับมือร่วมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จัดอบรมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รุ่นที่ 2 ในเดือน มิ.ย.นี้ หวังลดคดีที่จะขึ้นสู่ศาล
วันนี้ (27 พ.ค.) รองศาสตราจารย์ ว่าที่เรือตรี ดร.เอกวิทย์ มณีธร อดีตกรรมการสภามหาวิทยาลัย ประธานสภาพนักงานมหาวิทยาลัยบูรพา และคณบดีผู้ก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาบูรพา เผยถึงการจับมือร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เตรียมจัดอบรมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รุ่นที่ 2 ที่จะมีขึ้นในเดือน มิ.ย.นี้ว่า เพื่อเป็นการสร้างกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ซึ่งเป็นนโยบายระดับประเทศ
หลังพบว่าการอบรมในครั้งแรกได้รับความสนใจจากประชาชนในหลากหลายอาชีพจนสามารถสร้างผู้ทำหน้าที่ประนีประนอมและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้คู่กรณีจนสามารถลดคดีที่จะนำขึ้นสู่ศาลได้ และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกให้สังคมไทย
“หลายคดีพบว่าสามารถประนีประนอมกันได้ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนที่โรงพัก เรื่อยไปจนถึงชั้นอัยการ หรือแม้แต่เมื่อขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลแล้ว ซึ่งในอดีตศาลยุติธรรมจะมีผู้ประนีประนอมประจำศาล เพื่อทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้วแต่ยังไม่เพียงพอ และไม่ทั่วถึง จึงกำหนดให้มหาวิทยาลัยในแต่ละภูมิภาคร่วมทำหน้าที่ในการจัดอบรมดังกล่าวและมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยหลักของภาคตะวันออกได้รับการพิจารณาให้ทำหน้าที่ในส่วนนี้”
ขณะที่เนื้อหาหลักสูตรจะมีทั้งการอบรมภาคทฤษฎีและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ซึ่งจะได้รับวุฒิบัตรผ่านการอบรมและสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ย เพื่อจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยของตนเองประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ได้
“การจัดอบรมในรุ่นแรกมีผู้เข้ารับการอบรมประมาณ 30 คน โดยมีทั้งผู้ประกอบการอาชีพที่หลากหลาย บางท่านเป็นนายก อบต. สมาชิกสภาท้องถิ่น ทนายความ ข้าราชการบำนาญ หรือแม้แต่พยาบาลที่ต้องการเพิ่มประสบการณ์ด้านการทำงานเพื่อสังคม และบางคนต้างการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการทำงานจิตสาธารณะภายใต้การรับรองของรัฐ และแต่งตั้งโดยรัฐให้ทำหน้าที่”
รองศาสตราจารย์ ว่าที่เรือตรี ดร.เอกวิทย์ ยังเผยอีกว่า หลักสูตรการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.ปี 2562 ในรุ่นที่ 2 ได้เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 17 มิ.ย.นี้ คุณสมบัติของผู้สมัครไม่จำกัดวุฒิการศึกษา แต่ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี หรือหากมีอายุต่ำกว่านี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยของกระทรวงยุติธรรม เมื่อผ่านการอบรมเมื่อมีอายุครบ 30 ปีแล้วเท่านั้น
โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์การวัดผลจะได้รับวุฒิบัตรจากมหาวิทยาลัยบูรพา และได้รับวุฒิบัตรไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่สามารถปฏิบัติงานได้ทั่วประเทศจาก กพยช. และยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่อาจตามมาในภายหลัง รวมทั้งคำสั่งแต่งตั้งจากกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ทำงานร่วมกับ สนง.ยุติธรรมของแต่ละจังหวัด
และหากมีผลงานการไกล่เกลี่ยที่ดีเด่นในอนาคตอาจจะถูกเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัลของทางราชการอีกด้วย สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผอ.โครงการ หรือ รศ.ว่าที่เรือตรี ดร.เอกวิทย์ มณีธร (อ.อ้าย) 06-5449-9491 ถึงวันที่ 16 มิ.ย.นี้