บุรีรัมย์ - หนุ่มใหญ่วัย 47 ปีสารภาพสิ้นซ้อมแฟนสาวดับคารีสอร์ตจริง อ้างแค้นฝ่ายหญิงไปมีคนอื่นพร้อมเอาเงินไปให้ชายอื่นและไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ไม่คิดทำร้ายแฟนให้ถึงตาย
วันนี้ (27 พ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.จุฬารัตน์ ทองหลาง หรืออ้อ อายุ 21 ปี หญิงสาวชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เสียชีวิตปริศนาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 พ.ค. 66 โดยมีรอยช้ำตามใบหน้า และลำตัว หลังจากมาเปิดห้องพักกับนายประมวน แท่นทอง อายุ 47 ปี แฟนหนุ่ม และทอมหรือสาวหล่อที่เป็นหลานของแฟนหนุ่ม แต่แฟนหนุ่มกลับแจ้งแม่บ้านรีสอร์ตว่าแฟนสาวกินยาตาย ซึ่งขัดแย้งกับหลักฐานที่พบ แต่ขณะกู้ภัยฯ นำตัวฝ่ายหญิงส่ง รพ.แฟนหนุ่มได้หายตัวไป
กระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ (26 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.สตึก ได้เข้าทำการจับกุมตัวนายประมวนได้ขณะหลบซ่อนตัวในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่ อ.สตึก พร้อมรถเก๋งที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ซึ่งยังมีรอยเท้าและเสื้อผ้าของฝ่ายหญิงอยู่ในรถ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวนายประมวนมายัง สภ.ลำปลายมาศ เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบปากคำนายประมวนก็รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุทำร้ายแฟนสาวในรีสอร์ตจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิต เพราะหลังจากเห็นแฟนสาวแน่นิ่งก็พยายามปั๊มหัวใจ และขอความช่วยเหลือจากแม่บ้านที่รีสอร์ตให้ช่วยตามกู้ภัยมารับตัวแฟนไปส่งโรงพยาบาล
นายประมวนได้เปิดใจปมเหตุที่ทำให้พลั้งมือฆ่าแฟนสาว อ้างว่ารับไม่ได้ที่แฟนไปมีคนอื่นทั้งยังเอาเงินจากตนเองไปประกันตัวชายคนอื่น ถึงขั้นมานั่งร้องไห้ว่าอยากจะช่วยผู้ชายคนดังกล่าว แต่กลับไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับตนเองตั้งแต่เดือน เม.ย. คนเป็นแฟนกันมันก็รับไม่ได้ กระทั่งเวลาตนเองอยู่ในห้องเขาก็ยังออกไปหาผู้ชายคนอื่น จึงเกิดมีปากเสียงกันที่รีสอร์ตยืนยันว่าไม่ได้เมา ทำไปเพราะโกรธแต่ไม่คิดว่าจะทำร้ายแฟนให้ถึงตาย พอเห็นแฟนแน่นิ่งก็ร้องไห้ตลอดและพยายามผายปอดปั๊มหัวใจช่วยชีวิตแล้ว เพราะรักน้องตอนนี้ก็ยังรักอยู่และตั้งใจจะแต่งงานกับน้อง แต่เพราะความหึงหวงและโกรธจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็อยากจะขอโทษน้อง และคนที่ตนเองอยากจะขอโทษมากที่สุดคือย่าของน้อง เพราะที่ผ่านมาย่าดีกับตนเองมาก เชื่อว่าแฟนไม่รักตนเท่ากับย่าด้วยซ้ำ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าย้อนกลับไปได้จะทำหรือไม่ นายประมวนกลับบอกว่ามันคงย้อนกลับไปไม่ได้จึงขอไม่ตอบ ทั้งยังบอกด้วยว่าหลังเกิดเหตุก็ตั้งใจจะจากไปอยู่แล้ว แต่ถูกจับกุมได้ก่อน
ส่วนที่บอกว่าตนเองบังคับให้หลานสาวไปรับอ้อออกมาจากบ้านเพื่อมาหาตนเองนั้น ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ทั้งหลานที่เป็นทอมและอ้อ เขารับกันออกไปเที่ยวกันเอง แล้วช่วงที่ออกไปเที่ยวอ้อก็เป็นฝ่ายโทร.หาตนเอง เพราะหลังจากที่ตนเองเห็นอ้อออกไปกับผู้ชายคนอื่นก็คิดว่าจะไม่ยุ่งหรือตัดใจอยู่แล้ว แต่พอฝ่ายหญิงโทร.หาแล้วไปเจอกันก็ไปพักด้วยกันที่รีสอร์ต แต่เกิดมีปากเสียงกันตนพลั้งมือทำร้ายจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำพูดของนายประมวน ต้องรอดูตามพยานหลักฐานที่พบเพื่อดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
