เชียงราย - ชาวบ้านหลายหมู่บ้านลุกฮือซ้ำ ยกขบวนติดป้ายย้ำจุดยืนต่อต้าน “โรงไฟฟ้าขยะพาน เชียงราย” ต่อเนื่อง หลังร้องทั้งฝ่ายปกครอง-ว่าที่ ส.ส.มาแล้ว
วันนี้ (25 พ.ค. 66) ชาวบ้านจาก ต.เมืองพาน และ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน หลายหมู่บ้าน ได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณศาลาชนะศึก พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หมู่บ้านท่าดีหมี หมู่ 18 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย เพื่อแสดงพลังคัดค้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าหุ่ง
หลังทราบว่ามีเอกชนอยู่ระหว่างกว้านซื้อที่ดินพื้นที่บ้านห้วยประสิทธิ์ หมู่ 12 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน เพื่อเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จนทำให้ชาวบ้านกังวลว่าหากโครงการเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ฯลฯ
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ถือป้ายข้อความต่างๆ เพื่อแสดงพลัง เช่น ขอคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อชุมชน โรงไฟฟ้าขยะถ้าดีจริงคงไม่มาสร้างที่นี่ หยุดสร้างโรงไฟฟ้าขยะ คนบ้านเราไม่เอาบ่อขยะ ฯลฯ รวมทั้งผู้ที่มาจากหมู่บ้านต่างๆ ก็ใช้ชื่อหมู่บ้านอ้างอิง เช่น คนบ้านป่าแขมไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ คนบ้านใหม่ขัวแตะไม่ต้องการโรงไฟฟ้าขยะ ฯลฯ
จากนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้ากราบสักการะพระบรมรูปฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนนำป้ายข้อความคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะไปติดตามจุดต่างๆ ของแต่ละหมู่บ้านด้วย
ตัวแทนชาวบ้านระบุว่า ที่ผ่านมาเรารู้ความคืบหน้าของโครงการจากข่าวสารที่มีออกมา จึงได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้านอย่างเต็มที่ เนื่องจากพื้นที่เป้าหมายก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรและมีชุมชนที่อยู่อาศัย วัด โรงเรียน ฯลฯ อยู่รายรอบกว่า 10 หมู่บ้าน ถนนก็คับแคบ จึงเห็นว่าไม่ใช่พื้นที่ที่เหมาะสมอย่างแน่นอน เพราะหากโครงการเกิดขึ้นจริงจะมีรถขนขยะเข้าออกซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และหากมีการรั่วไหลของสารเคมีก็จะส่งผลกระทบต่อหลายตำบล คือ ต.เมืองพาน ต.ป่าหุ่ง ต.ม่วงคำ ต.ทานตะวัน ต.แม่เย็น ฯลฯ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ชาวบ้านอย่างน้อย 4-5 หมู่บ้านใน ต.เมืองพาน และ ต.ป่าหุ่ง เคยยื่นหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ผ่านฝ่ายปกครองทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอพาน ฯลฯ มาแล้ว รวมทั้งเคยไปยื่นหนังสือที่สำนักงานว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 4 จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.พาน ด้วย
ซึ่งทางอำเภอฯ เคยให้ อบต.ป่าหุ่งชี้แจงข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าโครงการยังอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กระทั่งชาวบ้านมีการรวมตัวกันต่อเนื่อง