มุกดาหาร - ชาวบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ หมู่ 13 ต.คำป่าหลาย เดินหน้าคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลม โดยยึดพื้นที่ทำกินของชาวบ้านประเคนให้นายทุนเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวน 121 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา จวกสองมาตรฐาน ซ้ำทำโครงการไม่ถามความเห็นประชาชนในท้องถิ่น ทำผิดกระบวนการตามกฎหมายมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการ
จากกรณีชาวบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ หมู่ 13 ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้ยื่นหนังสือคัดค้านไม่เอาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม เนื่องจากไม่มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และพื้นที่โครงการทับที่ทำกินของชาวบ้าน ปัญหานี้มีมาตั้งแต่ปี 2565 ชาวบ้านเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ไขปัญหามาต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกรมป่าไม้อนุญาตให้บริษัท 555 กรีนเอ็นเนอร์จี้ จำกัด เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู แปลงที่ 2 ท้องที่ตำบลคำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติแล้ว เพื่อดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม เนื้อที่ 121 ไร่ 3 งาน 68 ตารางวา ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2596
นายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน ตัวแทนช่าวบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ หมู่ 13 เปิดเผยว่า พื้นที่เขตป่าสงวน ถึงแม้จะร้องไปว่ามันทับที่ของราษฎร ทางหน่วยงานราชการหรือผู้ประกอบการก็ยังปรับแก้ปรับเปลี่ยน ตอนนี้ประมาณ 4 ครั้ง แต่ก็ยังทับที่ของราษฎรเหมือนเดิม เป็นที่ทับซ้อนของกรมป่าไม้ใช้ประโยชน์ และเห็นบอกว่าจะมีข้อผูกพันเรื่องกฎหมาย พื้นที่ที่ขออนุญาตมีอยู่ในพื้นที่แจ้งความดำเนินคดีด้วย ถ้าสมมติว่ารัฐอนุญาตแสดงว่าขบวนการที่พี่น้องถูกขับไล่ หรือขับไล่คนจนออกจากพื้นที่ เพื่อเอื้อให้บริษัทเอกชนเพื่อจะทำประโยชน์ คิดว่ารัฐเองสองมาตรฐาน
นั่นเท่ากับว่านโยบายทวงคืนผืนป่าเอื้อนายทุนชัดเจน และได้อนุญาตให้นายทุนแล้ว แต่ขั้นตอนมันผิดตั้งแต่เริ่มต้น และได้ร้องไปว่าขบวนการได้มามันไม่ครบถ้วนตามขั้นตอนของกฎหมาย ก็อาจจะมีการส่อทุจริตหรือทำขบวนการไม่ถูกต้องในการยื่นขอ โดยเฉพาะรายงานการตรวจสอบสภาพป่า
นายอดิศักดิ์บอกอีกว่า ขบวนการเริ่มต้นอยู่ที่ระดับพื้นที่ เราค้านตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่สภาเทศบาล จนถึงขบวนการอนุญาตในพื้นที่ป่า ล่าสุดได้ไปยื่นหนังสือที่กรมป่าไม้ เห็นว่าตัวแทนของกรมป่าไม้ได้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ถ้าทำขบวนการไม่ตรงไปตรงมา คิดว่าเจ้าหน้าที่ท่านใดอนุญาต หรือเจ้าหน้าที่ท่านใดที่ร่วมขบวนการ คิดว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อ ในพื้นที่จริงไม่ใช่มีลมเฉยๆ ไม่รู้ว่าพื้นที่จริงๆ มันมีอะไรบ้าง มีคน มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มีการทำมาหากิน มีการหาอยู่หากิน
“ล่าสุดในเอกสารรายงานการตรวจสอบสภาพป่าก็ยังระบุด้วยว่า มีสวนมันสำปะหลังของราษฎร ก็แสดงว่าทับที่ของชาวบ้าน ข้อเท็จจริงมันปรากฏอยู่แล้ว จะอ้างว่าไม่ทับที่มันเป็นไปไม่ได้ ก่อนจะมีโครงการต้องทำประชาคม ขบวนการลัดขั้นตอนไป ซึ่งชาวบ้านได้คัดค้านไปแล้วหลายครั้ง แต่เขาไม่ฟัง” นายอดิศักดิ์กล่าว
ด้าน นางพินใจ ปาหลา ชาวบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ หมู่ 13 ระบุเพิ่มเติมว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ให้ชาวบ้านหากิน แต่ให้นายทุนมาทำลาย หมายความว่าอย่างไร ถือว่ามันไม่ยุติธรรมต่อชาวบ้าน อยากเรียกร้องที่ทำกินคืน ทำไมไม่ไปทำที่อื่น ที่ไม่มีคนมีภูเขา แต่มาไล่ชาวบ้านออกแล้วเอื้อให้นายทุนมาทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ได้ไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ และเอื้อให้นายทุนมาทำกังหันลม
จึงอยากฝากถึงผู้มีอำนาจผู้หลักผู้ใหญ่ ให้มาช่วยดูแลชาวบ้าน ความยุติธรรมอยู่ใหน ทำไมเอื้อให้กับนายทุน ประชาชนไม่มีทางสู้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลัวนายทุน