ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พ่อเมืองขอนแก่นสั่งตรวจสอบสหกรณ์ฯ 189 แห่งทั้งจังหวัด หลังพบเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยยักยอกเงินสมาชิกไปกว่า 10 ล้านบาท แม้ จนท.การเงินจะสารภาพผิดยักยอกไปจริงและทำเพียงคนเดียว มั่นใจทำเป็นขบวนการ
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงกรณี ชาวบ้านใน อ.เปือยน้อยที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยร้องทุกข์ถูกยักยอกเงินของสมาชิกไปกว่า 10 ล้านบาทว่า หลังจากนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบเรื่องก็ได้สั่งการไปยังนายอำเภอและสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นลงพื้นที่ตรวนสอบทันที ซึ่งมีคนสารภาพรับผิด 1 ราย คือ นางสาวพัชรินทร์ ผิวสี เจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ดังกล่าวสารภาพผิดว่ายักยอกเงินไปคนเดียวจำนวน 12 ล้านบาท แต่เราไม่เชื่อว่าทำคนเดียว เพราะการทำธุรกรรมทางการเงินนั้นมีคนนำเงินเข้าฝาก การถอน การจ่าย ขั้นตอนต่างๆ ต้องมีหลายคนร่วมกันทำ ร่วมกันเซ็นรับรอง
“เรายังต้องทำการสืบสวนสอบสวนต่อ เนื่องจากจำนวนเงินสมาชิกที่ถูกยักยอกเงินไปนั้นประมาณ 60 กว่าราย และต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน เกี่ยวพันกับใคร ต้องมารับผิดชอบร่วมกันทุกคน” นายชาญชัยกล่าว และว่า
ปัญหาที่เกิดขึ้นมีข้อกฎหมายหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง และอยู่ในความดูแลของ พมจ. ซึ่งทราบว่าขณะนี้ทางสหกรณ์ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้ตั้งทีมกฎหมายเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวแล้ว ให้ชาวบ้านเป็นพยาน แต่ความเสียหายมีจำนวนมาก ทางจังหวัดมองว่าจะต้องมีการตรวจสอบในรายละเอียดเชิงลึก และสหกรณ์ในฐานะผู้เสียหายควรจะกระตือรือร้น ต้องมีการสั่งตรวจตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำให้มองได้ว่าละเว้นหรือไม่ ทำไมจะต้องรอเรื่องแดงถึงจังหวัดก่อนถึงลงมือ
ในส่วนของตำรวจนั้นทราบว่ามีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปากและต้องสอบอีกจำนวนมาก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพราะเรายังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะกระทำการเพียงคนเดียว แต่ทั้งนี้เราก็ไม่ได้จะปรักปรำใคร ทุกอย่างยึดตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยทางจังหวัดเองได้ประสานไปทางตำรวจ เนื่องจากคาดว่าอาจจะมีขบวนการที่ใหญ่กว่านี้ เพราะในกระบวนการขั้นตอนทางการเงินนั้น ก่อนที่เงินจะมีการถอน การฝาก จะต้องผ่านเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย และผู้เสียหายชัดเจนและจำนวนมาก
แต่ทางสหกรณ์มีความชะล่าใจและนิ่งนอนใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทางจังหวัดขอนแก่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้มีการสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทำการตรวจสอบทุกสหกรณ์ทุกกองทุนจำนวน 189 แห่งในจังหวัดขอนแก่น บางพื้นที่มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาตรวจสอบ และในส่วนของนายทะเบียนซึ่งเป็นเทศบาลก็จะต้องมีการตรวจสอบขึ้นมาอีกชุดในการตรวจสอบ หากสหกรณ์ใด กองทุนใดที่ประชาชนพบเห็นและเกิดปัญหา ควรเข้าแจ้งความทันที เพื่อให้มีการตรวจสอบก่อนที่ความเสียหายจะกลายเป็นวงกว้าง
ขณะที่นายณัฐพล แป้นนอก สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สหกรณ์จังหวัดได้รับรายงานมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 สหกรณ์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบทันที พร้อมเรียกประชุมคณะกรรมการและสอบถามข้อมูล กระทั่งเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์มารับสารภาพผิดเพียงคนเดียวว่ายักยอกเอาเงินไปใช้ส่วนตัว 12 ล้านบาท เมื่อทราบรายละเอียดก็รายงานไปยังทางอธิบดีและรายงานมาทางจังหวัดให้รับทราบ โดยอธิบดีได้มีการกำชับมาว่าต้องเด็ดขาดและรวดเร็ว ทั้งคดีแพ่งและอาญา เพื่อนำเงินฝากมาคืนกับสมาชิกโดยเร็ว
จากการพูดคุยเบื้องต้น เงินจำนวน 12 ล้านบาทนั้น สหกรณ์ขอนแก่นไม่ปักใจเชื่อว่าจะเสียหายเพียงเท่านี้ และไม่เชื่อว่าจะลงมือทำคนเดียว จึงได้มีการตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจขึ้นมาตรวจสอบ จำนวน 3 ชุด โดยลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ไปถึงวันที่ 25 พ.ค.นี้ หากสมาชิกสหกรณ์มีความสงสัยหรือมีข้อมูลใดๆ สามารถเดินทางมาขอให้รายละเอียดที่สำนักงานสหกรณ์ได้ อีกสองชุดที่จะตระเวนสอบถามสมาชิก ในส่วนของสมาชิกเงินกู้ เงินฝาก และเงินหุ้น ซึ่งทราบว่าสมาชิกบางคนเพิ่งทราบเรื่อง ก็จะได้นำเอกสารมาเคลียร์ยอดให้ตรงกับทางสหกรณ์ว่ายอดตรงกันหรือไม่”
นายณัฐพลกล่าวอีกว่า ในส่วนการแจ้งความดำเนินคดีนั้น อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเข้าแจ้งความ ในขณะนี้แม้ว่าจะมีผู้รับสารภาพว่าก่อเหตุคนเดียว แต่ในทางการสืบสวนสอบสวนก็จะต้องมีการขยายผลเอาผิดทั้งหมด ซึ่งตามขั้นตอนการปฏิบัติ สหกรณ์จะมีการสรุปรายวัน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเกี่ยวข้อง ก็จะต้องตรวจสอบเงินรับฝาก เงินถอนนั้นผ่านกระบวนการเหล่านี้และไปสิ้นสุดที่ตรงไหนใครเกี่ยวข้องบ้าง ก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งหมดเพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วย