กาญจนบุรี - ว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย เขต 1 กาญจน์ เผยหลัง กกต.รับรอง เรื่องแรกที่จะผลักดันคือที่ดิน ไฟฟ้า ประปา ขอประชาชนอย่าเรียกท่าน ให้เรียกชื่อหรือ ส.ส.ก็พอ วันนี้ ส.ส.คือผู้รับใช้ประชาชน ส.ส.จะอยู่เหนือประชาชนไม่ได้ แต่ ส.ส.จะต้องอยู่ใต้ประชาชน
วันนี้ (16 พ.ค.) นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือกอล์ฟ ว่าที่ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 1 เปิดเผยหลังจากทราบผลคะแนนการเลือกตั้งว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี โดยเฉพาะเขต 1 ที่ให้ความไว้วางใจเลือกตนเองเข้าไปเป็นผู้แทนในสภา โดยได้ฝ่าการเมืองที่ร้อนแรงเข้าไป ซึ่งคิดว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมามันคงเป็นเพราะประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเมืองกาญจน์ด้วยเหมือนกัน ผลคะแนนที่ได้มา จำนวน 33,183 คะแนน จะทำให้มีกำลังใจที่จะมุ่งมั่นทำงานให้คนเมืองกาญจน์
ถามว่าเมื่อ กกต.รับรองให้เข้าไปนั่งในสภาผมจะผลักดันนโยบายให้ประชาชนโดยเร่งด่วนคือนโยบายอะไรนั้น สิ่งแรกเลยที่จะทำคือเรื่องที่ดินทำกิน ไฟฟ้า และน้ำประปา ขนาดเราอยู่ที่บ้านอากาศยังร้อนจำเป็นต้องเปิดแอร์ แต่มีประชาชนจำนวนหนึ่งมีบ้านแต่ไม่สามารถไปขอน้ำขอไฟได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก และถ้าได้รับรองจาก กกต.ให้เข้าไปนั่งในสภาวันไหน จะนำประเด็นนี้ไปเสนอเพื่อผลักดันเป็นอันดับแรก เพื่อให้ชาวกาญจนบุรีที่ประสบปัญหาดังกล่าวสามารถขอน้ำขอไฟได้ และนอกจากนี้ จะเสนอให้มีการปฏิรูปกฎหมายที่ดินที่มันล้าหลังมานานหลายร้อยปี มาถึงวันนี้ยุคปี 66 แล้วคิดว่าเรื่องการปฏิรูปกฎหมายที่ดินนั้นมีความสำคัญมาก
ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนทุกพรรคการเมือง ซึ่งการหาเสียงที่ผ่านมาเชื่อว่าทุกคนรู้สึกเหนื่อยมาก ส่วนตัวแล้วรู้สึกเข้าใจผู้สมัครทุกคน จึงขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ ทุกคน ถือว่าตนเองเป็นผู้สมัครรุ่นน้อง โอกาสหน้าขอให้พี่ๆ ผู้สมัครทุกคนกลับมาสู้กันใหม่ ด้วยความที่เป็นนักการเมืองมันจึงมีแพ้มีชนะเป็นเรื่องปกติ วันนี้ตนเองชนะแต่วันหน้าอาจจะแพ้พี่ๆ ก็เป็นไปได้เพราะมันเป็นเรื่องของการเมืองที่ต้องแข่งขัน แต่วันนี้เชื่อว่าพี่ๆ ทุกคนที่อาสามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนต่างมีจิตที่จะเข้ามาทำงานเพื่อคนของบ้านเราอยู่แล้ว ดังนั้น จึงขอให้กำลังใจพี่ๆ ทุกคนด้วยความสัตย์จริง
ถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้มา 4 ที่นั่งจาก 5 ที่นั่งเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเคยทำได้มาแล้ว แต่สถานการณ์ทางการเมืองในยุคต่างๆ เปลี่ยนไป ซึ่งต้องยอมรับว่ายุคนี้เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลง เช่น ตอนแรกพรรคเพื่อไทยคิดว่าจะสู้กับพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคภูมิใจไทย แต่สุดท้ายแล้วพรรคเพื่อไทยกลับกลายเป็นว่าต้องมาสู้กับพรรคก้าวไกล ซึ่งกระแสการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ผมเชื่อว่าคนเมืองกาญจน์ต่างต้องการเปลี่ยน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนให้ความสำคัญและตื่นตัวเป็นอย่างมาก ก่อนลงคะแนนเชื่อว่าประชาชนมองดูและตัดสินใจไปแล้วว่าผู้สมัครคนไหนมีความเหมาะสมที่จะเข้าไปเป็นกระบอกเสียงและตัวแทนให้เขา ผลการเลือกตั้งจึงออกมาเป็นเช่นนี้
ที่สำคัญจังหวัดกาญจนบุรีของเราส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทหาร ผลพิสูจน์จากคะแนนทำให้ทราบแล้วว่าปัจจุบันทหารเองอยากจะเปลี่ยนแปลง เพราะทุกคนต้องการให้จังหวัดกาญจนบุรีมีการพัฒนาให้ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
ซึ่งการเป็น ส.ส.ในปีแรกตั้งใจจะเข้าไปทำงานในสภาเพื่อชาวกาญจนบุรีให้ดีที่สุด เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 จะทำงานให้ดีกว่าปีแรก หากสิ่งที่ตั้งใจทำแล้วทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าชาวบ้านคงจะไม่เลือก นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้าไปพิสูจน์ตัวเองให้ประชาชนได้เห็นผลงาน และจะได้รู้ว่าคุ้มค่ามากที่เลือกตนเองเข้ามาเป็น ส.ส.และเมื่อถึงวันเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้เบาตัวลง แต่ถ้าการที่ตนเองได้เข้าไปเป็น ส.ส.รอบนี้เพียงแค่รอบแรกถ้าผมยังขี้เกียจไม่มีผลงานให้ชาวบ้านเขาเห็นรอบหน้าอย่าหวังเลยว่าชาวบ้านจะเลือกเข้าไปอีก
สิ่งหนึ่งที่ขอฝากบอกไปถึงพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ว่า การที่ได้มาเป็นผู้แทนในสภา คำนำหน้าในการเรียกชื่อผมนั้น ขอให้เรียกชื่อผมเหมือนเดิม โดยให้เรียกชื่อกอล์ฟ หรือ ส.ส.กอล์ฟ ก็พอ แต่อย่ามาเรียกผมว่าท่านกอล์ฟ หรือท่าน ส.ส.เพราะวันนี้ ส.ส.คือผู้รับใช้ประชาชน ส.ส.จะอยู่เหนือประชาชนไม่ได้ แต่ ส.ส.จะต้องอยู่ใต้ประชาชน เพราะสิ่งที่ได้มาคือดาวบนบ่า คือสิ่งที่ตนเองได้มาจากประชาชน ดังนั้น จะต้องอยู่กับประชาชนทั้งยามทุกข์และยามสุข
