ระยอง - ชาวบ้านชุมชนตลาดเก่าเมืองระยอง เริ่มอึดอัดการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังปล่อยผ่านครูสอนยิงปืนอดีตทหารคลั่งนานกว่า 24 ชั่วโมง ยังไม่สามารถนำตัวออกจากบ้านได้ ส่งผลผู้ประกอบการร้านค้าปิด ชาวบ้านเข้าบ้านไม่ได้ ถามจะให้เดือดร้อนอีกนานแค่ไหน
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุอดีตทหารเกณฑ์คลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงภายในบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ในชุมชุมตลาดเก่า เทศบาลนครระยอง เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ต้องจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์
กระทั่งเมื่อเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ได้เดินทางลงพื้นที่บัญชาการควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง พร้อมกล่าวว่า การก่อเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากความเครียดของผู้ก่อเหตุจากปัญหาครอบครัว ตกงาน และยังเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายศาลค้นบ้าน
ส่วนเรื่องมียาเสพติดเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นจะต้องรอการตรวจสอบร่างกาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยุทธวิธีตามที่ได้รับการฝึกและไม่ให้ใช้ความรุนแรง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีตัวประกันและผู้ก่อเหตุมีท่าทีสงบลงนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านเลยไปกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว แต่แผนปฏิบัติการสยบอดีตพลทหารเกณฑ์คลั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่บรรลุผลและทำได้เพียงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยต่างๆ กว่าครึ่งร้อยนายเข้าปฏิบัติการเฝ้าระวังเหตุการณ์โดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ
และยังได้นำตัวมารดาของ นายบาส หรือพงศ์ อายุ 36 ปี อดีตทหารเรือ ซึ่งมีอาชีพเป็นครูสอนยิงปืนเข้าพูดคุยกับอดีตทหารเกณฑ์รายดังกล่าวเพื่อให้ยินยอมมอบตัว แต่กลับได้รับเสียงตะโกนออกมาว่าไม่ให้ยุ่ง และต้องการนอน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้อดีตพลทหารเกณฑ์คลั่งจะไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่อปฏิบัติการเจรจา และไม่ใช้วิธีรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน แต่ประชาชนที่อยู่ภายในชุมชนที่ยังไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เริ่มมีความอึดอัดกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
เพราะชาวบ้านต้องการให้เหตุการณ์สงบอย่างรวดเร็ว และยังอึดอัดมากขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีท่าทีว่าจะบุกจู่โจมเข้า จับกุมตัวแต่อย่างใด โดยทำได้เพียงวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 20 นาย เฝ้าอยู่ในจุดที่เกิดเหตุ ส่งผลให้ร้านกาแฟ รวมทั้งร้านค้าต่างๆ ที่อยู่บริเวณปากซอยต้องพากันหยุดขายขาดรายได้ อีกทั้งถนนภายในซอยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการขึงเชือกปิดกั้นเส้นทางไม่อนุญาตให้สัญจร
จนเกิดคำถามจากชาวบ้านจำนวนมากว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรอให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากเพียงใดจึงจะยอมทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวจบลง
