กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์เปิดพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้ แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ ต่อยอดพัฒนากาฬสินธุ์ให้เป็นเมืองตำนานไดโนเสาร์โลก หรือ Kalasin Jurassic World ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทย และกลุ่มอินโดจีน
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้ องค์การบริหารส่วนตำบลนาไคร้ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์บ้านนาไคร้ แหล่งค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินพืช แหล่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด แห่งที่ 2 ของ จ.กาฬสินธุ์ มีนายธนภัทร ณ ระนอง ปลัด จ.กาฬสินธุ์, นายขัตติยา ชัยมณี วัฒนธรรม จ.กาฬสินธุ์, นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์, นายภิรมย์ อุทรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาไคร้ พร้อมเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร ส่วนราชการ และประชาชนร่วมชมนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนมาก
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่าพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ ถือเป็นการเพิ่มพื้นที่การท่องเที่ยว ตามสโลแกน 3 ร่ำรวย คือร่ำรวยวัฒนธรรม ร่ำรวยน้ำใจ และร่ำรวยสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นประตูด่านหน้าจุดแรก ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประชาคมอินโดจีน รวมถึงนักท่องเที่ยวสถาบันการศึกษา ที่มาจาก จ.มุกดาหาร จ.สกลนคร จ.ร้อยเอ็ด มาชมและศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ตำนานเมืองไดโนเสาร์โลกที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย
จ.กาฬสินธุ์ ยังจะพัฒนาต่อยอดเป็นศูนย์รวมของไดโนเสาร์พันธุ์ไทย เรียกได้ว่าเป็นเมืองตำนานไดโนเสาร์โลก หรือ Kalasin Jurassic World อีกด้วย โดยกำลังพัฒนาให้เป็นเมืองธรณีวิทยา หรือ Geopark เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว 7 อำเภอ คือ สหัสขันธ์ คำม่วง สมเด็จ ห้วยผึ้ง นาคู เขาวง และกุฉินารายณ์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างการท่องเที่ยวสู่สากล สร้างรายได้สู่ชุมชน สอดคล้องกับการพัฒนาให้กาฬสินธุ์เป็น "เมืองจูราสสิกเวิลด์ หรือเมืองตำนานไดโนเสาร์โลก" ในอนาคต
ด้านนายภิรมย์ อุทรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาไคร้ กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงปี 2537-2539 ชาวบ้าน ร่วมกับพระสงฆ์ได้ร่วมกันปรับพื้นที่บริเวณวัดภูผาวัว ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาภูผาวัว ในเขต ต.นาไคร้ จากนั้นได้พบหินลักษณะคล้ายฟอสซิลไดโนเสาร์ จึงแจ้งไปทาง ผวจ.กาฬสินธุ์และประสานนักธรณีวิทยา ทำการสำรวจและขุดค้นเพิ่มเติม พบเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินพืช 171 ชิ้น ถือเป็นแหล่งค้นพบซากฟอสซิลแหล่งใหญ่ และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 2 ของ จ.กาฬสินธุ์ต่อจากพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์
อบต.นาไคร้ ร่วมกับหลายภาคส่วนขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้ จำนวน 19,350,000 บาท และองค์การบริหารส่วนตำบลนาไคร้ สมทบจำนวน 2,150,000 บาท รวมงบประมาณ 21,500,000 บาท ภายในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้มีทั้งหมด 5 โซน คือ โซนต้อนรับ จำหน่ายบัตรเข้าชมและวิวัฒนาการไดโนเสาร์สายพันธ์ต่างๆ โซนฉายภาพยนตร์แนะนำสถานที่ โซนระบบสุริยะ-โลก-ดวงจันทร์
โซนแหล่งกำเนิดการค้นพบไดโนเสาร์บ้านนาไคร้ ห้องประวัติการขุดพบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ที่บ้านนาไคร้ และเปรียบเทียบการวิ่งแข่งกับไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ และห้องจัดแสดงไดโนเสาร์จำลองสายพันธุ์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน เคลื่อนไหวได้ และนิทรรศการไดโนเสาร์
นายภิรมย์กล่าวอีกว่า ในอนาคตพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์บ้านนาไคร้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวและเส้นทางวัฒนธรรมไปยัง จ.มุกดาหาร และประเทศเพื่อนบ้าน คือ สปป.ลาว เวียดนาม การเปิดพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้ถือเป็นการเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมเยือนในเทศกาลสงกรานต์ และเที่ยวงานบั้งไฟตะไลล้าน ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ด้วย
ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์นาไคร้ตั้งอยู่บ้านนาไคร้ ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เปิดให้เข้าชมในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ ค่าเข้าชม เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
