ประจวบคีรีขันธ์ - "ลุงป้อม" ลงพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ สั่งคุมเข้มแผนการใช้น้ำให้เพียงพอตลอดหน้าแล้งนี้ พร้อมวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำ รองรับความต้องการใช้น้ำในอนาคต มีประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมากเหมือนเดิม
วันนี้ (31 มี.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง และการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในช่วงเช้า ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและแผนการผลิตน้ำประปาเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง ณ ห้องประชุมสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 14 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยการลงพื้นที่ของรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ มีประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับว่า วันนี้ได้มากำชับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบได้วางแผนบริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ มีตัวแทนภาคประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ เช่น ปัญหาพื้นที่ทำกินในตำบลบึงนคร และตำบลทับไต้ ที่เป็นพื้นที่ในเขตปลอดภัยทางทหารของศูนย์การทหารราบ ขอให้ชาวบ้านที่อยู่เดิมได้มีสิทธิทำกินในพื้นที่ที่ทหารไม่ได้ใช้ในการฝึก ชาวบ้านตำบลบึงนคร ขอความช่วยเหลือเนื่องจากประชาชนชนขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำประปา เป็นต้น
รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/66 อย่างเคร่งครัด และให้ สทนช. เร่งรัดติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุดและให้มีปริมาณน้ำใช้เพียงพอตลอดแล้งนี้ โดยมอบให้กรมชลประทานบริหารจัดการแหล่งเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อการใช้น้ำในทุกพื้นที่ และมอบให้จังหวัดขับเคลื่อนกระบวนการสร้างการรับรู้สถานการณ์น้ำและแผนการดำเนินการด้านทรัพยากรน้ำต่างๆ ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งบูรณาการทุกหน่วยงานแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด (สมุทรสงคราม ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์) พร้อมวางแผนการพัฒนาแหล่งน้ำให้เต็มศักยภาพ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และรองรับความต้องการน้ำในอนาคต รวมทั้งการผลิตน้ำประปาที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
สำหรับสถานการณ์ฤดูแล้งปี 2565/66 นี้ สทนช.ได้ประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่า จะมีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำด้านอุปโภคบริโภคในเขตการประปาส่วนภูมิภาค 1 สาขา ได้แก่ กปภ.สาขาบางสะพาน และนอกเขตการประปาส่วนภูมิภาค 3 ตำบล 1 อำเภอ คือ อ.หัวหิน (ต.บึงนคร ต.หนองพลับ และ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่) โดยมีแผนงานและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ จำนวน 5 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มความจุได้ 17.52 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 8,850 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 4,340 ครัวเรือน เช่น ก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนหัวหิน อ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่าง และอาคารท่อระบายน้ำลงลำน้ำเดิมเขื่อนปราณบุรี เป็นต้น
นอกจากนี้ สทนช. ยังเร่งศึกษาการบริหารจัดการน้ำพื้นที่รอยต่อลุ่มน้ำแม่กลอง เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านคุณภาพน้ำ (พื้นที่นำร่อง) ในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ราชบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี เพื่อจัดทำแผนการบริหารจัดการปัญหาคุณภาพน้ำที่เหมาะสมกับพื้นที่ และให้ได้แนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งจะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาน้ำในทุกมิติเกิดความยั่งยืน
จากนั้นในช่วงบ่าย ลงพื้นที่ประชุมติดตามแผนงานและโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ตามลำดับ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ