พิษณุโลก - พ่อเชื่อนิสิต มน.หมัดหนักชกหน้าลูกดับพูดความจริงไม่หมด..หลังลูกชายเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ ปี 1 ม.นเรศวร ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ ถูกนิสิตต่างคณะชกเสียชีวิต ก่อนมอบตัว-รับสารภาพต่อตำรวจ แต่เชื่อไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด ชี้อาจไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว
วันนี้ (30 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้โพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย ซึ่งเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร ถูกนิสิตร่วมสถาบันเดียวกันต่อยหน้า 2 ครั้งจนชักและเสียชีวิต ซึ่งญาติติดใจ อยากให้ผู้ก่อเหตุพูดความจริงให้หมด เพราะไม่เชื่อว่าแค่ต่อย 2 ครั้งจะทำให้ถึงกับเสียชีวิต แล้วคนที่อ้างว่าจะไปส่งทำไมจึงไปส่งผู้ตายที่ห้องผู้ก่อเหตุ ทำไมถึงไม่ไปส่งที่หอพักผู้ตาย
จากการตรวจสอบพบว่าผู้โพสต์คือ นายสุพัฒน์ กามูล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.12 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นพ่อของนิสิต ม.นเรศวรที่เสียชีวิต ซึ่งเปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรเมื่อช่วงเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 28 มีนาคม 2566 ว่าลูกชาย คือ นายพิชิตพงษ์ กาลมูล หรือน้องมอด หรือน้องหมอก อายุ 20 ปี นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลอาการสาหัส ให้ตนรีบเดินทางจากกำแพงเพชรไปที่โรงพยาบาลฯ แต่ตนยังเดินทางไม่ทันถึงก็ได้รับแจ้งอีกครั้งว่าลูกเสียชีวิตแล้ว จึงรีบเดินทางไปดูร่างลูกชาย ก็พบว่าบริเวณใบหน้าบวมช้ำ
สอบถามคนที่นำตัวส่งเข้าโรงพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกตนถึงเสียชีวิต ก็ทราบเพียงว่าลูกตนไปเลี้ยงฉลองกับกลุ่มเพื่อนที่สอบเสร็จ และมีปัญหากับ นาย ก.นิสิตปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ และมีเพื่อนจะพาลูกชายตนไปส่งหอพักซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนกลับพาลูกตนไปส่งไว้ที่หอพักของนาย ก. จากนั้นเพื่อนคนนั้นก็ไม่รู้ไปไหน ทราบว่านาย ก.ได้ต่อยลูกชายตนที่ใบหน้า ทั้งๆ ที่ลูกชายตนนอนไม่ได้สติอยู่ และก็ไม่ยอมพาส่งโรงพยาบาลตั้งแต่แรกที่ลูกชายตนชัก จนสุดท้ายลูกชายตนเสียชีวิต
“เสียใจมาก อยากรู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมไม่ปักใจเชื่อว่า นาย ก. จะลงมือคนเดียว ถึงแม้นาย ก.จะอ้างว่าลูกผมไปด่านาย ก.ก่อน แต่ถ้าด่ากันก็ไม่น่าถึงขั้นต้องลงมือทำร้ายกันจนตาย อยากให้เขาพูดความจริง”
ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางมหาวิทยาลัยทราบเรื่องก็ได้ดำเนินการติดต่อประสานทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งทางตำรวจ ผู้ปกครอง และประสานงานกลุ่มนิสิตที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
“คณะครู อาจารย์ทุกท่านเสียใจมาก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย เพราะนั่นหมายความว่าน้องคนหนึ่งได้เสียชีวิต และอีก 1 คนต้องเสียอนาคต นับเป็นการสูญเสียที่ทางเราไม่อยากให้เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ประสานไปยังครอบครัวของนิสิตที่เสียชีวิตและชี้แจงเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือจากกองทุนสวัสดิภาพนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเงินเยียวยาจะอยู่ที่ 75,000 บาทสำหรับการสูญเสียชีวิต และมีกำหนดเดินทางไปร่วมฟังพระสวดพระอภิธรรมศพที่กำแพงเพชรในวันศุกร์นี้
ส่วนในเรื่องของกฎระเบียบการลงโทษทางวินัย ซึ่งทราบว่ามีผู้อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด 4 คน รวมผู้เสียชีวิต และผู้ก่อเหตุด้วย ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพยานที่เหลือว่าเกิดอะไรขึ้น และจะเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการ สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังรับแจ้งความในช่วงเช้าของวันที่ 28 มีนาคม 2566 ก็ได้มีการสอบปากคำพยานที่เกิดเหตุ วิทยาการฯ ไปเก็บหลักฐาน ส่งตัวผู้ก่อเหตุและผู้ที่เกี่ยวข้องไปตรวจร่างกาย
และทางผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา "ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย" รวมทั้งรับสารภาพ ซึ่งได้นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก และทางศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นเยาวชนเป็นบุคคลที่ไม่เคยก่อเหตุมาก่อน ซึ่งหลังจากนี้ทราบว่าผู้ก่อเหตุพร้อมครอบครัวจะเดินทางเข้าไปขอขมาร่างเพื่อนที่เสียชีวิตและครอบครัวต่อไป