พิจิตร - ชาวสวนมะปราง มะยงชิด และมะยงชิดพันธุ์สุวรรณบาตร ยิ้ม..หลังส่องไฟเร่งผลผลิตเก็บขายรอบแรกราคาแพงลิ่วกิโลฯ ละ 300-400 บาท ทำเงินรายละหลายแสนมาแล้ว ล่าสุดผลผลิตรุ่น 2 เริ่มได้ที่-เก็บขายได้พร้อมๆ กัน แม้ราคาลดแต่ปริมาณล้น ออเดอร์ทะลักทั้งออนไลน์-หน้าสวน รวมถึงร้านเครื่องดื่มดับร้อน
นายชัยธวัช ชูศรี หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตร ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของเกษตรกรผู้ปลูกมะปราง มะยงชิด และมะยงชิดพันธุ์สุวรรณบาตร ซึ่งมีเกษตรกรปลูกมากกว่า 2 พันไร่ และปีนี้อากาศหนาวเย็นทำให้ผลผลิตออกดอก ออกผล ได้ปริมาณดีมาก รวมทั้งหลายสวนพัฒนาคุณภาพผ่านมาตรฐาน GAP
โดยในช่วงต้นฤดูคือราวปลายเดือนกุมภาพันธ์และต้นเดือนมีนาคม 66 เกษตรกรที่ใช้วิธีเร่งการออกดอก ออกผล ด้วยการติดไฟที่ต้นมะยงชิดตอนกลางคืนจะได้ผลผลิตในช่วงแรกก่อนใคร ทำให้ มะปราง มะยงชิด และมะยงชิดพันธุ์สุวรรณบาตร ผลเท่าไข่ไก่ 12-13 ลูก/กก. ขายส่ง-ขายปลีก ตลาดออนไลน์ ได้ราคาสูงถึง กก.ละ 300-400 บาท
แต่ขณะนี้ผลผลิตเริ่มออกมาพร้อมๆ กัน ทำให้ราคาเริ่มถูกลงแล้ว ล่าสุดผลขนาด 11-13 ลูก กก.เหลือแค่ กก.ละ 50-70 บาท, ขนาด 15-17 ลูก/กก. ราคาเพียงแค่ กก.ละ 25-30 บาทเท่านั้น
นายบรรเจิด บัวผัน เกษตรกรปลูกมะยงชิด บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 10 ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร ที่ปลูกมะยงชิดจำนวน 500 ต้น บนเนื้อที่ประมาน 15 ไร่ เปิดเผยว่า เก็บผลผลิตช่วงแรกไปแล้ว 1 ครั้ง ขายได้เงินประมาณ 4 แสนบาท และคาดว่าเร็วๆ นี้จะเก็บรุ่น 2 ซึ่งก็น่าจะขายได้เงินไม่น้อยกว่า 4 แสนบาท ยืนยันว่าปลูกมะยงชิด 15 ไร่ มีรายได้ดีกว่าทำนาหลายเท่าตัว
เช่นเดียวกับ นางหญิง สุขประเสริฐ เจ้าของสวนสุขประเสริฐ หรือที่เรียกกัน (สวนผู้พัน) ซึ่งอยู่ที่ ต.วังทับไทร อ.สากเหล็ก และนางศิรินทิพย์ ปิยธรรมวิบูลย์ อยู่หมู่ 7 บ้านวังปราง ต.วังทับไทร อ.สากเหล็ก ซึ่งปลูกมะยงชิด 14 ไร่ 450 ต้น ปัจจุบันจะเน้นเปิดขายทางช่องทางออนไลน์ คือ ขายผ่านเฟซบุ๊ก โดยส่งให้ผู้ซื้อถึงบ้าน เน้นสินค้าดี มีคุณภาพ ลูกใหญ่ ถูกใจผู้ซื้อที่ไม่เกี่ยงราคา จึงทำให้สามารถขายได้ราคาค่อนข้างสูงกว่าทั่วไป เรียกได้ว่าอยู่ได้แบบสบายๆ
ด้านนางรณิดา ทัพนิยม หรือแอน เจ้าของร้าน Ni Coffee เลขที่ 22/20 ถนนศรีมาลา อ.เมืองพิจิตร (ติดกับธนาคาร TTB สาขาพิจิตร) ก็นำมะยงชิด ซึ่งเป็นผลไม้ที่เป็นของดีเมืองพิจิตรที่กำลังทะลักออกสู่ตลาด ทำเมนูดับร้อนด้วย “มะยงชิดปั่น” ขายราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท
แอน-รณิดา บอกว่า พิจิตรเป็นเมืองที่ปลูกมะยงชิดกันมากและมีรสชาติดีไม่แพ้ที่ไหนๆ จึงนำมะยงชิดมาทำสมูทตี้ปั่นและมีรสชาติคล้ายๆ กับมะม่วงปั่น ซึ่งพอทำให้ลูกค้าได้ลิ้มลองแล้วติดใจกันทุกคน เพราะมะยงชิดมีความเปรี้ยวหวานในตัวเอง แถมรสชาติยังดีกว่าสมูทตี้มะม่วงปั่นด้วย และด้วยมะยงชิดของจังหวัดพิจิตรเป็นพันธุ์ที่มีเนื้อเยอะเมล็ดลีบ จึงทำให้ปั่นออกมาแล้วเนื้อเป็นสมูทตี้ที่ละมุนมากจนแทบไม่ต้องเติมความหวานอะไรเพิ่มลงไปเลย
ส่วนลูกค้าคอดื่มกาแฟสด มักจะขอให้ทำมะยงชิดอเมริกาโน ซึ่งเป็นเมนูที่ใครได้ลิ้มลองแล้วจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สดชื่น หอมกาแฟ และลงตัวที่ความเปรี้ยวหวานของมะยงชิด ชนิดที่ว่า..พออยู่ในแก้วและดื่มรวมกันแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “ฟิน”
สำหรับสูตรมะยงชิดปั่นของร้าน Ni Coffee ก็จะมีมะยงชิดแบบเนื้อล้วนปั่น, น้ำมะยงชิดเย็น คือการนำเนื้อมะยงชิดมาปั่นแล้วราดบนน้ำแข็ง และอเมริกาโนมะยงชิด รวมถึงถ้าใครที่ต้องการความสดชื่น ก็จะแนะนำเป็นมะยงชิดโซดา
